กาญจนบุรี - ชาวสังขละบุรีเดือดร้อนหนัก หลังรถพ่วงขนยางพาราข้ามชาติเกิดอุบัติเหตุถี่ ล่าสุด นักท่องเที่ยวรอกลางถนนนานกว่า 3 ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ได้มีเหตุรถพ่วงบรรทุกยางพาราทรานสิทธิที่เป็นยางพาราของประเทศพม่า ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขนจากฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่ โดยใช้ช่องทางด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อผ่านดินแดนประเทศไทยส่งไปประเทศที่สามคือ ประเทศมาเลเซีย จากจำนวนยางพาราที่มีเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้รถพ่วงบรรทุกจำนวนหลายคันในการขนส่ง
ประเด็นคือช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซัน หรือฤดูกาลท่องเที่ยว ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากทั่วประเทศหลั่งไหลมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาส่วนใหญ่ต่างใช้รถยนต์ชนิดต่างๆ เป็นพาหนะในการเดินทางมาทองเที่ยวกันทั้งสิ้น
ปัญหาคือปัจจุบันรถพ่วงบรรทุกยางพารายังคงดำเนินต่อไป และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนเที่ยวขึ้นเรื่อยๆ และเกือบทุกวันรถพ่วงที่บรรทุกยางพารามาเต็มพิกัดไม่สามารถขับขึ้นภูเขาบริเวณเนินช้างร้อง และเนินยาว ได้ เมื่อรถพ่วงไม่สามารถขึ้นได้ทำให้ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกอำเภอสังขละบุรี ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ แต่ละครั้งจะต้องใช้เวลานาน 2-3 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น เพราะกว่าผู้ประกอบการจะนำรถมาเคลื่อนย้ายออกไปได้ต้องใช้เวลานาน ที่สำคัญถนนสายดังกล่าวเป็นถนนที่คับแคบ ใช้วิ่งสวนกันไปมามีเพียงแค่ 2 เลนเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจร่วมสะพานรันตี หมู่ 1 ต.หนองลู ว่า เกิดอุบัติเหตุรถ 18 ล้อ ขึ้นเนินช้างร้องไม่ได้ และเสียหลักไหลลงเขาตัวรถขวางถนนทั้ง 2 เลน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ ตชด.134 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อส.สังขละบุรี ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ารถ 18 ล้อคันดังกล่าวบรรทุกยางพาราผ่านแดน (transit) ที่นำมาจากประเทศพม่ามุ่งหน้าไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย มาเต็มคันรถ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ที่กำลังใช้ถนนสาย 323 ทั้งไปและกลับไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ประชาชน และนักท่องเที่ยวต้องทำใจให้เย็นลง กว่าจะแก้ไขปัญหาได้ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
จากปัญหาข้างต้น ทำให้ชาวอำเภอสังขละบุรี ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเริ่มออกมาเคลื่อนไหวทางโลกโซเชียลเป็นวงกว้าง เช่นบางคนให้เหตุผลว่า ตั้งแต่ผู้ประกอบการใช้รถบรรทุกชนิดต่างๆ ขนยางพารามาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อมุ่งหน้านำไปส่งที่ประเทศมาเลเซียโดยใช้เส้นทางของประเทศไทยเป็นทางผ่าน ทำให้ทุกคนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักขวางถนน หรือขึ้นเนินช้างร้องไม่ได้ อาจจะทำให้รถฉุกเฉินโรงพยาบาลสังขละบุรี ที่จำเป็นต้องนำผู้ป่วยหนักส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอทองผาภูมิ หรือตัวจังหวัดกาญจนบุรี ไม่สามารถไปได้ หากผู้ป่วยเสียชีวิตใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
และนอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกว่า ขอให้เร่งดำเนินการขยายถนนให้กว้างขึ้น หรือแม้กระทั่งขอให้รัฐบาลทุ่มงบประมาณในการสร้างถนนเลียบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ ไปถึง อ.สังขละบุรี หากสำเร็จจะช่วยลดปัญหาเรื่องการจราจร อีกทั้งจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย