บุรีรัมย์ - แม่ค้า และวิน จยย.รับจ้างที่บุรีรัมย์อยากให้รัฐบาลทบทวนการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านเพื่อมาแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท หวั่นส่งผลกระทบทำค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รัฐควรแก้ปัญหาราคาข้าวของแพงจะดีกว่าถึงจะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้
วันนี้ (6 ธ.ค.) จากกรณีที่รัฐบาลจะออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนบ้านบาท เพื่อแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตังค์ให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันต่ำกว่า 500,000 บาท เริ่ม พ.ค. 2567 นี้ ซึ่งจากการสำรวจความเห็นประชาชน พ่อค้าแม่ค้า และผู้มีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเกรงว่าจะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นตามไปด้วยซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนที่จะต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะทุกวันนี้ราคาสินค้าก็แพงขึ้นเกือบทุกประเภทอยู่แล้ว จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าให้ถูกลงหรือไม่ให้แพงขึ้นมากกว่านี้จะสามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้ประชาชนได้ดีกว่าการแจกเงินดิจิทัล
นางเกษร ผลเจริญ อายุ 70 ปี แม่ค้าลูกชิ้น และ นายสมร ดำริรัมย์ อายุ 59 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้าง ต่างบอกว่า ส่วนตัวไม่อยากให้รัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาสินค้าที่แพงขึ้นมากกว่า เพราะเงินดิจิทัล 1 หมื่นช่วยได้แค่ระยะสั้น แต่หากราคาสินค้าถูกลงจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพได้ในระยะยาวมากกว่า โดยเฉพาะทุกวันนี้รายได้ลดลงแต่ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายแจกเงินดิจิทัลว่าสามารถช่วยได้จริงหรือไม่