xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.โรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว 2 พี่น้อง ขณะที่หลายฝ่ายร่วมให้ความช่วยเหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผอ.โรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า พร้อมคณะผู้บริหารเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวบ้านน้องหญิง-น้องก๊อก ส่วน ส จ.เบ็นซ์ พร้อม ส.อบจ.ทีมพลังกาญจน์ พร้อมควักกระเป๋าส่วนตัวสร้างบ้านให้ใหม่ ครอบครัวสุดดีใจ แต่ยังติดปัญหาเรื่องที่ดิน

จากกรณี น.ส.หทัยชนก หรือครูตุ๊กตา ศรียานา ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาโรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า “ลาดหญ้าวิทยา” หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้นำคลิปวอดีโอขณะเดินทางไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ตามโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน มาโพสต์ลงในติ๊กต๊อก ชื่อ “tooktah.sriyana” โดยคลิปวิดีโอมีความยาว 40 วินาทีเศษ พร้อมกับบรรยายข้อความระบุว่า “จุกในอกครูจริงๆ” #เยี่ยมบ้านนักเรียน เลือกเกิดไม่ได้แต่หนูสามารถเป็นคนดีได้

จากคลิปพบว่าครูตุ๊กตา นั้นได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านพักของเด็กนักเรียนที่เป็นพี่น้องกัน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน สภาพบ้านเป็นเพิงหลังคาฝาบ้านทำด้วยสังกะสีและมีผ้าใบขาดเก่าๆ ขึงกันแดดและฝน สภาพบ้านโดยรวมนั้นสุดทรุดโทรม ซึ่งไม่ทราบว่าเด็กๆนั้นอยู่กันได้อย่างไร โดยหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยคลิปเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จากนั้นร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ นายฉกาจ อาสาสนา ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองกาญจนบุรี นางจันทร์จิรา พัฒนศิริ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี นายนิติกร แสงทอง สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 ร่วมกับ อบต.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ สพป.กาญจนบุรี เขต 1 และครูโรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมเดินทางไปบ้านพักของเด็กทั้ง 2 คน เพื่อหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (4 ธ.ค.) นางบุษกร ห้าสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า “ลาดหญ้าวิทยา” น ส.ทิพวรรณ เดชตรียภพ รอง ผอ.โรงเรียน พร้อมคณะทีมบริหารโรงเรียน ร่วมกับนายนิติกร แสงทอง สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 นางนฤมล เขียวทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ลาดหญ้า ได้เดินทางไปพบครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้กำลังใจและเป็นตัวแทนมอบเงินที่ได้รับการบริจาคจากสมาชิกกลุ่มไลน์ ศูนย์หงส์ทอง จำนวนหนึ่งให้เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว

ซึ่งทำให้สมาชิกภายในครอบครัวทั้ง 5 คน ประกอบด้วย 1.นายพายุ พรมพันธ์ บิดา อายุ 28 ปี 2.นางสาวอัญชลี ผิวผ่อง มารดา อายุ 25 ปี 3.นางจินตนา ยิ่งสมศรี ยาย อายุ 50 ปี 4.ด.ญ.สุภาพร ผิวผ่อง หรือน้องพร อายุ 9 ขวบ และ 5.ด.ช.ฉัตรชัย ผิวผ่อง หรือน้องก็อก อายุ 8 ปี สองพี่น้องที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ที่วัดทุ่งลาดหญ้า มีความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ นายนิติกร แสงทอง หรือ ส.จ.เบ็นซ์ ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 กล่าวว่า เบื้องต้นเด็กและครอบครัวยังไม่มีเอกสารสิทธิทางทะเบียนราษฎร์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ส่วนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้นจะใช้เงินส่วนตัวเพื่อนำมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวดังกล่าว ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจากการที่ได้ประสานกับนายฉกาจ อาสาสนา ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองกาญจนบุรี คาดว่าภายในวันนี้จะนำเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองกาญจนบุรี เข้ามาทำการรื้อถอนเพิงพักออก เพื่อเตรียมการสร้างบ้านให้ใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านจึงไม่ต้องพึ่งหน่วยงานราชการ โดยตนจะใช้งบส่วนตัว รวมทั้งงบจาก ส.อบจ.กาญจนบุรี ทีมพลังกาญจน์ โดยนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องการเรียนของเด็กทั้ง 2 คน ต้องฝากให้ทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของท้องที่และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลต่อไป

ส่วนเรื่องการบริจาคนั้นขอให้ผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือประสานไปผู้นำท้องที่หรือประสานไปทางโรงเรียนวัดทุ่งลาดหญ้า ที่เด็กเรียนหนังสืออยู่ ส่วนตัวแล้วไม่ขอเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ด.ญ.สุภาพร อายุ 9 ขวบ และ ด.ช ฉัตรชัย ผิวผ่อง อายุ 8 ปี สองพี่น้องอาศัยอยู่เพิงพักกับพ่อแม่และย่า รวม 5 คน มีความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร ส่วนที่ดินเป็นเอกสาร ภบท.5 มีเนื้อที่ประมาณ 3 งาน หรือ 300 ตารางวา ภายในพื้นที่มีบ้านที่เป็นเพิงพักของญาติพี่น้อง 3 หลัง แต่สภาพไม่ต่างกันมากนัก

ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวมี น ส.สุนิษา พรมพันธ์ พี่สาวของพ่อเด็กทั้ง 2 คน เป็นเจ้าของ การที่นายนิติกร แสงทอง ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ใจดีจะเข้ามาสร้างบ้านหลังใหม่ให้นั้นยังคงติดปัญหาในเรื่องของที่ดินจุดที่จะใช้ก่อสร้าง หากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยเจรจาเรื่องแบ่งที่ดินให้สร้างบ้านเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง

ทั้งนี้ หลังจากที่สื่อโซเชียลที่เผยแพร่ข่าวสภาพบ้านของเด็กนักเรียนทั้ง 2 คนออกไป ทำให้สังคมออนไลน์เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนได้ตำหนิไปถึงผู้นำคือผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทำให้ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 คือนางนฤมล เขียวทอง รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

เพราะหลายปีที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งคณะกรรมการหมู่บ้านได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่ติดขัดในเรื่องของพ่อเด็กนักเรียน ซึ่งเกิดมาไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อปี 2554 เคยไปพบและแนะนำให้ไปทำบัตรประชาชน พร้อมทั้งอธิบายถึงสิทธิต่างๆ ที่จะได้รับเมื่ออายุครบ 60 ปี แต่พ่อของเด็กไม่ยอมไปทำจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่เคยทอดทิ้งแต่อย่างใด จึงขอชี้แจงให้สังคมทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว










กำลังโหลดความคิดเห็น