อุบลราชธานี-ผอ.สาวควบเก๋งจะกลับบ้าน รถเกิดเฉี่ยวชนจนเกิดไฟลุกไหม้ห้องเครื่อง ก่อนลามไหม้เสียหายทั้งคัน
โชคดีเจ้าตัวหนีออกมาจากรถได้
เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.ณธรรม์ภพ วาโย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งไฟไหม้บริเวณทางเข้าบ้านยางเทิง ถนนอุบล-ตระการ ขาออก ก่อนถึงองค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อย 200 เมตร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้ามูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี เข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์เก๋งฮอนด้า สีบอร์เทา หมายเลขทะเบียน กฉ 8927 อุบลราชธานี มีนางอรอนงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ เทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ขับขี่ พลเมืองดี และ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อยที่พบเหตุ นำถังดับเพลิงเคมีเข้าดับระงับเหตุแต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากมีน้ำมันรั่วออกมาจากตัวรถอย่างต่อเนื่อง จึงต้องประสานรถดับเพลิงโฟมจากเทศบาลนครอุบลราชธานี เข้าสนับสนุนประมาณ 5 นาทีเพลิงจึงสงบ
สอบถามนางอรอนงค์ ผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในอาการตกใจร้องไห้ พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า ว่ารถเป็นอะไร รถพังหมดเลยเหรอ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องพยายามปลอบนานกว่า 30 นาที จึงสามารถจับใจความได้ว่า ก่อนเกิดเหตุนางอรอนงค์ เพิ่งออมาจากบ้านเพื่อนที่บ้านนาดูน ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี กำลังจะกลับบ้านหนองบก ตำบลเหล่าเสือโก๊ก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุภาพตัดไป รู้ตัวอีกครั้งพบว่ารถมีควันไฟออกมาจากห้องเครื่องนางอรอนงค์จึงรีบออกมาจากตัวรถไม่นานไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็วทำให้รถเสียหายทั้งคัน
นายณัฐพล สายธนู อายุ 28 ปี พลเมืองดีที่แจ้งเหตุเปิดเผยว่า ตนเองไม่เห็นตอนที่ชนแต่เมื่อขับจักรยานยนต์ผ่านที่เกิดเหตุเห็นไฟกำลังเริ่มลุกไหม้ จึงได้รีบไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ อบต.ไร่น้อย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 200 เมตร แต่เนื่องจากรถดับเพลิงของทาง อบต.ไร่น้อยเสียอยู่ระหว่างซ่อมจึงได้เพียงถังดับเพลิงเคมีมาระงับเหตุแต่ก็ไม่เพียงพอจึงต้องโทรแจ้ง 191 เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วย
นายณัฐพล ยังเล่าอีกว่าตอนที่ตนมาถึงพบรถแวน จำรุ่น ยี่ห้อ ไม่ได้จำได้สภาพเก่ามีคนชายสูงอายุเป็นคนขับ เล่าให้ตนฟังว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขันรถมาดีๆได้ยินแต่เสียงกระแทกท้ายรถจึงได้จอดดู พบว่าไฟท้ายแตกแต่ไม่รู้ว่าชนหรือไม่แล้วก็ขับรถออกไป นายณัฐพลเองไม่ยืนยันจะเป็นรถคู่กรณีหรือไม่
เบื้องต้นในที่เกิดเหตุไม่พบคู่กรณี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ มีเพียงรถเท่านั้นที่เสียหาย ทางญาติจึงของนำนางอรอนงค์ ไปตรวจร่างกายก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบที่เกิดเหตุเพื่อหาคู่กรณีและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป