เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ลงพื้นที่ตรวจติดตามเหตุไฟไหม้ตึกแถวกลางตลาดต้นลำไย เบื้องต้นพบเสียหาย 9 คูหา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยังไม่ฟันธงต้นเหตุมาจากการปล่อยโคมลอย โดยให้รอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด หลังหนึ่งในผู้เสียหายถูกไฟผลาญจนหมดตัวหลั่งน้ำตาระบุช่วงก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นโคมลอยตกลงบนหลังคา
ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันนี้ (28 พ.ย. 66) เกิดเหตุไฟไหม้ตึกแถวอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี ติดกับศาลเจ้าปุงเถ่ากง ย่านตลาดต้นลำไย กลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังพร้อมรถดับเพลิงนับสิบคันเข้าทำการฉีดน้ำดับไฟที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมงตั้งแต่ที่รับแจ้งเหตุ จนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เบื้องต้นพบว่าตึกแถวที่สร้างติดกัน 9 คูหา พร้อมทรัพย์สินที่อยู่ด้านในได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ห้ามเข้า เพราะมีความเสี่ยงที่ตัวอาคารจะพังถล่มลงมาทำให้ได้รับอันตราย เนื่องจากโครงสร้างอาคารมีสภาพเก่าถูกไฟไหม้และอุ้มน้ำที่ฉีดดับไฟไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งยังคงต้องทำการฉีดน้ำอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการปะทุของไฟ
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้าวันนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์และสังเกตการณ์สภาพความเสียหาย โดยเบื้องต้นพบตึกแถวที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย 9 คูหา และด้านหลังตึกแถวที่เป็นอาคารโครงสร้างไม้ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ติดกันถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียด
โดยระหว่างที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กำลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อยู่นั้น ทางเจ้าของอาคารที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดรายหนึ่งที่อยู่ในอาการเสียใจและร้องไห้ได้ให้ข้อมูลต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้นั้น มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่าสาเหตุของไฟไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากโคมลอยตกใส่หลังคาที่มีโครงสร้างเป็นไม้แล้วเกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งรู้สึกสังหรณ์ใจและเป็นกังวลอยู่แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุไฟไหม้เช่นนี้ เพราะช่วงคืนที่ผ่านมาหลังจากที่ปิดร้านแล้วกลับบ้านพบเห็นคนฝ่าฝืนปล่อยโคมลอยกันเป็นจำนวนมากที่บริเวณสะพานนวรัฐและริมแม่น้ำปิงที่อยู่ใกล้กัน ทั้งๆ ที่มีการประกาศห้าม กระทั่งท้ายที่สุดได้เกิดเหตุขึ้นจริงๆ และตัวเองกลายเป็นผู้เสียหายที่ถูกไฟไหม้ทรัพย์สินเสียหายจนหมดตัว ซึ่งอยากเรียกร้องว่าควรยกเลิกและห้ามไม่ให้มีการปล่อยโคมลอยได้แล้ว
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีอาคารเป็นตึกแถวที่ได้รับความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ครั้งนี้ 9 คูหา พร้อมทรัพย์สิน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้นั้น ในเวลานี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบและสรุปสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป สำหรับประเด็นเรื่องการปล่อยโคมลอยนั้น ยืนยันว่าในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่มีการห้ามปล่อยโคมลอยอย่างเด็ดขาด และมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอย่างเข้มงวดแล้ว ซึ่งไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีสาเหตุมาจากโคมลอยหรือไม่ แต่ต้องเน้นย้ำและขอความร่วมมือไม่ให้มีการปล่อยโคมลอยจะเป็นการดีที่สุด
