ศูนย์ข่าวศรีราชา - ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ “หลวงปู่อี๊ด” พระเกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออกใช้พุทธคุณปัดเป่าอาการเด็กหญิงวัย 9 ขวบเดินไม่ได้นาน 7 เดือน ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง หลังร่างทรงบอกเป็นเพราะผีตายโหงเกาะขา
จากกรณีผู้สื่อข่าวในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก คุณยายปิ่น ดวงธนู อายุ 78 ปี ซึ่งมีดวงตาฝ้าฟาง และ คุณยายไหม เทียมเมือง อายุ 74 ปี สองพี่น้องชาว จ.ศรีสะเกษ ที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ม. 3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ขณะนี้ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานเนื่องจากหลานสาววัย 9 ขวบ คือ ด.ญ.รุ่งรวี ดวงธนู หรือน้องขิง ที่ล้มป่วยเดินไม่ได้จนต้องหยุดเรียนหนังสือ
และแม้ที่ผ่านมาจะพาไปหาหมอเพื่อให้ตรวจดูอาการแต่หาสาเหตุของการเจ็บป่วยไม่เจอจนสุดท้ายหมดหนทางที่หาวิธีรักษา จนทำให้หลานสาวต้องทนทุกข์มานานถึง 7 เดือน จึงตัดสินใจพึ่งร่างทรงเพื่อหาสาเหตุ กระทั่งได้รบแจ้งข่าวร้ายว่า หลานสาวพลาดพลั้งเหยียบกระทงบัตรพลีเซ่นวิญญาณจนผีตายโหงเกาะขาเพื่อกินบุญ
โดยร่างทรงได้เรียกเงินค่าทำพิธีไล่ผี จำนวน 1,500 บาท แต่ครอบครัวของตนเองมีฐานะยากจน จึงต้องวิงวอนผ่านสื่อให้ช่วยตามหาผู้มีวิชาเข้ามาช่วยเหลือหลานสาวให้พ้นจากบ่วงกรรมนั้น
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ประสานให้ครอบครัวของ น้องขิง อุ้มร่างน้องที่ยังอยู่ในสภาพเดินไม่ได้ขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเดินทางมาวัดเทพประสาทเตาถ่าน อ.สัตหีบ เพื่อพึ่งใบบุญ พระอาจารย์บุญส่ง จันทิโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด พระเกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออก ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติสมาธิกรรมฐานให้ช่วยทำพิธีอาบน้ำมนต์ และสวดพระพุทธคุณปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์แปลกใจคือ จากเดิมที่ น้องขิง มีอาการก้าวร้าว ร้องไห้และเกรี้ยวกราดไม่ยอมให้ใครพามาวัดเพื่อทำการรกัษา แต่เมื่อรถวิ่งเข้าสู่บริเวณวัด ภาพที่เห็นคือ น้องขิง มีอาการสงบนิ่งและยอมให้ญาติอุ้มเข้าไปหาพระอาจารย์บุญส่ง เพื่อรักษาแต่โดยดี
โดย พระอาจารย์บุญส่ง ได้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทำพิธีสวดมนต์ ทำน้ำมนต์และอาบน้ำมนต์ เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ซึ่งทำให้ น้องขิง เริ่มมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และเริ่มลุกเดินได้อีกครั้ง ผิดจากก่อนหน้าที่จะเดินทางมาวัด ส่วนอาการปวดขาที่มักเกิดขึ้นในทุกค่ำคืนก็ทุเลาลง
พระอาจารย์บุญส่ง เผยว่า การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเป็นสิ่งที่พระสงฆ์พึงกระทำ ส่วนการทำพิธีอาบน้ำมนต์ใช้บทสวดพุทธคุณและบทสวดอันเป็นมหามงคล ที่มีจารึกอยู่ในพระพุทธศาสนาในเรื่องของการใช้พุทธคุณช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และยังเสริมเป็นบุญบารมีให้ผู้นั้น ไม่ถือเป็นการทำอุตริเกินจริง
“การอธิษฐานจิตในสิ่งที่ดีงามและระลึกในบุญบารมีที่ได้สร้างสมมาเพื่อส่งเป็นผลบุญให้ผู้นั้นจะได้รับอานิสงส์แห่งบุญที่อาจเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี หรือจากหนักจะกลายเป็นเบา แต่ไม่ใช่ทุกรายจะหายหรือดีขึ้นจากบ่วงกรรม เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ที่บุญกรรมของแต่ละคนที่กระทำหรือติดตัวมา ส่วนเรื่องของ โยมขิง อาตมาจะไม่ขอพูดถึงดวงวิญญาณว่ามีจริงหรือไม่ เพราะอาตมาเป็นเพียงสงฆ์ผู้พึงปฏิบัติอยู่ในธรรม จึงขอใช้ธรรมช่วยปัดเป่าความทุกข์ยากในใจของครอบครัวโดยไม่ได้เรียกร้องทรัพย์ หรือประโยชน์อันใด” พระอาจารย์บุญส่ง กล่าว
