นครสวรรค์ - ศิษยานุศิษย์-ศรัทธาสาธุชนทยอยเดินทางไปวัดห้วยด้วน..รอรับสรีระสังขาร “หลวงพ่อพัฒน์” เผยพระเกจิดังแห่งปากน้ำโพ สั่งเสียให้เก็บร่างไว้-ไม่มีประชุมเพลิง
หลังสำนักงานพระราชมงคลวัชราจารย์แจ้งว่า พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ ปุญฺญกาโม) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) ได้มรณภาพเมื่อเวลา 01.35 น.วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 101 ปี บวช 77 พรรษานั้น
ศิษยานุศิษย์ ศรัทธาสาธุชน ที่ทราบข่าวต่างพากันเดินทางไปวัดห้วยด้วน อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ กันเป็นจำนวนมากตั้งแต่เช้า เพื่อรอรับสังขารของหลวงปู่พัฒน์ ขณะที่พระครูนิมิตศีลาภรณ์ (สม ฐิตสีโล) เจ้าคณะอำเภอหนองบัว, นายกิตติ ลิ้มศิริชัย นายอำเภอหนองบัว, พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.หนองบัว พร้อมด้วยผู้นำชุมชน, คณะกรรมการวัด ประชาชนบ้านห้วยด้วน ก็ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมประกอบพิธีทางศาสนาให้หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม ซึ่งจะมีการแจ้งกำหนดพิธีการต่างๆ ที่ชัดเจนอีกครั้ง
ด้านนายวรพล ภู่สิงห์ ไวยากรณ์ เปิดเผยว่า หลวงพ่อได้สั่งเสียไว้ให้เก็บบรรจุร่างไว้ไม่มีการประชุมเพลิง ดังนั้นเมื่อสรีระสังขารของหลวงพ่อพัฒน์ จะมาถึงวัดห้วยด้วน วันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 14.00 น. ทางกองพิธีจะมีการจัดงานต่อไป ซึ่งเบื้องต้นจะตั้งศพหลวงพ่อไว้ประมาณ 15 วัน จะสวดพระอภิธรรมทุกวัน
ขณะนี้คณะกรรมการได้เปิดกุฏิหลวงพ่อพัฒน์ เข้าไปตรวจสอบเงินที่หลวงพ่อเก็บไว้เพื่อนำมาใช้ในการจัดงานศพ เบื้องต้นมีเงินสดที่ญาติโยมนำมาบริจาคให้หลวงพ่ออยู่ประมาณ 2 แสนบาท ส่วนเงินในบัญชีธนาคารยังไม่ได้เบิกมาเพราะยังอยู่ในชื่อหลวงพ่อ
สำหรับประวัติหลวงปู่พัฒน์พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือหลวงปู่พัฒน์เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 ที่บ้านสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ บิดาชื่อพ่อพุฒ มารดาชื่อแม่แก้ว ก้อนจันเทศ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2489 ณ วัดสระทะเล โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ หรือ หลวงปู่ยอด วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กัน วัดเขาแก้วเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปุญฺญกาโม"
หลวงปู่พัฒน์ได้รับสืบทอดวิชาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งเป็นทวดผ่านทาง หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อิน วัดหางน้ำสาคร หลวงปู่หมึก วัดสระทะเล ซึ่งหลวงปู่พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน และหลวงปู่โหมด วัดโคกเดื่อ ต่อมาจึงได้ไปเรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับ หลวงปู่ชุบ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งนานถึง 6 ปี ก่อนกลับมาจำพรรษาที่วัดสระทะเล ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด
ต่อมาบิดามารดาของหลวงปู่พัฒน์ได้ย้ายไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่บ้านห้วยด้วน หรือบ้านธารทหาร และนายผล กำนันตำบลธารทหารในขณะนั้น จึงได้พาบิดา และมารดาไปอาราธนาให้ท่านมาจำพรรษาและพัฒนาวัดห้วยด้วนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธารทหาร และได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ที่ราชทินนาม พระครูนิวิฐปุญญากร กระทั่งปี พ.ศ. 2526 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลธารทหาร กระทั่งในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 20/2545 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2545 มติที่ 310/2545 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้ พระครูนิวิฐปุญญากร เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลธารทหารจนถึงปัจจุบัน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2564 ท่านได้รับพระราชทานพัดรองที่ระลึกงานบรมราชาภิเษก และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะชั้นราชเป็นกรณีพิเศษที่ราชทินนาม "พระราชมงคลวัชราจารย์"และมีการออกเหรียญได้รับความนิยมจำนวนมากด้วย
ทั้งนี้ จากการสอบถามความรู้สึกของศิษยานุศิษย์หลายคน ที่ต่างพร้อมใจกันเดินทางมาที่วัด ต่างก็รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ และหลายๆ คนต่างร้องไห้ออกมา โดยเฉพาะนายปัญญา พรณัฐวุฒิกุล อายุ 35 ปี หัวหน้าชุดปฏิบัติการสมาคมกู้ภ้ยเจ้าคุณพัฒน์ หนองบัว เปิดเผยว่า ทางสมาคมกู้ภ้ยเจ้าคุณพัฒน์ได้รับการช่วยเหลือดูแลจากหลวงพ่อพัฒน์มานานนับ 10 ปีแล้ว โดยท่านจะคอยอยู่เบื้องหลังให้กับทางกู้ภัยคอยช่วยเหลือดูแลชาว อ.หนองบัว มาตลอด แต่เมื่อถามถึงความรู้สึก ปรากฏว่านายปัญญากลับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่นิ่งเงียบก่อนจะออกอาการเศร้าโศกเสียใจ พร้อมกับบอกว่าตนไม่สามารถพูดอะไรได้ มันจุกในใจจริงๆ