เชียงราย - 3 สถาบันดังจับมือเพิ่มโอกาส นร.สามัญเรียนสายอาชีพ-สะสมหน่วยกิตไว้เรียนต่อได้ ไม่ต้องเรียนซ้ำ..เทคนิคเชียงรายร่วมทำ MOU โรงเรียนรัฐ-เอกชน เพิ่มทางเลือกเด็ก ยันจุดขายป้อนตลาดแรงงาน คาดเริ่มเทอมหน้าได้
นายเกรียงศักดิ์ ยอดสาร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เชียงราย ดร.ศรากร บุญปถัมภ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย นายนรินทร์โชติ เมืองใจหล้า ผอ.โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 ดร.ประพันธ์ ทรรศนียากร ผจก. นางอมรรัตน์ ปินวรรณา ผอ.โรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา ผู้บริหารสหวิทยาเขตริมกก ฯลฯ ได้ลงนาม MOU การจัดการศึกษาแบบเทียบระดับการศึกษาและคลังหน่วยกิตอาชีวศึกษา (Credit Bank) ระหว่าง 3 สถาบันการศึกษาดังกล่าวซึ่งล้วนตั้งอยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดระบบการเรียนการสอนระบบใหม่นี้ได้ในภาคเรียนถัดไป
ผอ.สพม.เชียงรายกล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมี MOU ระหว่างสถาบันศึกษาใน สพม.เชียงราย หรือที่อื่นๆแบบนี้มาก่อน จึงถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการบูรณาการระหว่าง 3 สถาบันการศึกษา เพื่อให้นักเรียนสายสามัญซึ่งในที่นี้คือโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 และโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา ได้มีโอกาสได้เรียนวิชาชีพจากวิทยาลัยเทคนิคเชียงรายในระหว่างที่ยังเรียนสายสามัญตามปกติ ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้มีทางเลือกและค้นหาความถนัดของตนเองได้ตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะบางโรงเรียนพบว่ามีนักเรียนที่เรียนจบไปเรียนต่อในสายวิชาชีพเป็นจำนวนมาก
ถือเป็นการกล้าคิดกล้าทำของสถาบันการศึกษาในการจะใช้บุคลากรร่วมกัน ซึ่งทาง สพม.เชียงรายจะได้ติดตามความคืบหน้าต่อไป รวมทั้งยังถือเป็นตัวอย่างร่วมมือระหว่างองค์กรต่างโครงสร้าง โดยในอนาคตอาจจะร่วมกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) หรือ กศน.ในอดีต หรือองค์กรอื่นๆ เพื่อให้นักเรียนมีทางเลือกมากขึ้น
ดร.ศรากรกล่าวว่า คณะกรรมการอาชีวศึกษามีนโยบายพัฒนาการศึกษาโดยยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้หารือกับโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 และโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา จัดการเรียนการสอนให้เชื่อมโยงกันด้วยวิธีการจัดตั้งห้องเรียนอาชีพ จัดการเรียนการสอนระยะสั้น และจะมีการพิจารณาจัดทำหลักสูตรวิชาชีพ ซึ่งจะสอบถามนักเรียนก่อนว่ามีความต้องการศึกษาวิชาชีพด้านใด ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงรายมีการเรียนการสอนกว่า 12 สาขาวิชา เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม แมคคาทรอนิกส์ ฯลฯ ที่ล้วนตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานได้เป็นอยางดี
ภายใต้แนวทางนี้ นักเรียนทั้ง 2 โรงเรียนสามารถนำผลการเรียนที่ได้ไปเทียบหน่วยกิตในการเข้าเรียนต่อในสายอาชีวศึกษาได้โดยไม่ต้องเรียนซ้ำอีก ซึ่งตามนโยบายของคณะกรรมการอาชีวศึกษาได้ผลักดันให้ใช้ผลการเรียนจากต่างสถาบันการศึกษา ต่างโครงสร้าง ฯลฯ ไปเทียบเรียนต่อได้ ทั้งในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ช่วยลดเวลาในการเรียนในอนาคตและลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วย โดยที่ใช้เวลาในการเรียนยังคงเท่าเดิมเพราะจะสอดแทรกให้นักเรียนได้เรียนในช่วงกิจกรรม หรือช่วงเวลาว่างทั้งในและนอกเวลาราชการตามความเหมาะสม วิชาชีพที่เรียนยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อีกด้วย
นางอมรรัตน์กล่าวว่า โรงเรียนสหศาสตร์ศึกษาเป็นโรงเรียนเอกชนประเภทสังคมสงเคราะห์ มีนักเรียนประมาณ 2,000 กว่าคน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 85% ซึ่งเมื่อเรียนจบแล้วมักไปเรียนต่อในสายอาชีวศึกษาถึง 70% เหลือเพียง 30% ที่เลือกจะเรียนต่อในสายสามัญ ดังนั้น MOU ในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องดีมากเพราะเด็กจะได้เรียนรู้วิชาชีพก่อนจะไปศึกษาจริง
ด้านนายนรินทร์โชติกล่าวว่า การเรียนรู้ของนักเรียนในอนาคตจะต้องมีความหลากหลายเพื่อให้มีทางเลือกมากขึ้น และยังต้องเพิ่มคุณภาพและจุดขายของโรงเรียน ตัวอย่างโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 ที่ในอดีตเคยมีนักเรียนถึง 2,000 กว่าคนแต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 200 คน ดังนั้นจึงให้ความสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนให้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มการเรียนสายวิชาชีพ เรียนแบบทูอินวัน คือนักเรียนจะได้เรียนทั้งสายสามัญและสายวิชาชีพด้วยนั่นเอง