ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เหตุล้วงข้อมูลผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น “อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต” ส่งหนังสือชี้แจง รับเป็นพนักงานจริง เผยกำลังตรวจสอบหากพฤติกรรมไม่เหมาะสมพร้อมลงโทษเด็ดขาด ด้านผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาใกล้เคียง
สั่งคุมเข้ม หวั่นบุคคลเข้ามาใช้โรงเรียนแสวงหาประโยชน์
จากกรณีที่ผู้ปกครองของโรงเรียนอนุบาลขอนแก่นได้โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีการบ้านลูกให้ระบายสีอาชีพในฝัน พร้อมให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ปกครอง กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์มีบริษัทประกันโทร.มาเชิญชวนให้ทำประกัน อ้างได้เบอร์ตามในใบงาน จึงตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและความปลอดภัย ซึ่งต่อมาทางโรงเรียนได้ชี้แจงพูดคุยกับผู้ปกครอง ยืนยันโรงเรียนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับใบงานดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวว่าตลอดทั้งวันวานนี้จนถึงช่วงค่ำมีธนาคารหลายแห่งโทร.มาขอข้อมูล ว่ากระปุกออมสินเป็นแบบไหน และทำการตรวจสอบ ก่อนที่ช่วงค่ำที่ผ่านมามีบริษัทประกันแห่งหนึ่งส่งหนังสือชี้แจงมาในไลน์ส่วนตัวของ ผอ. โดยข้อความในหนังสือชี้แจงระบุว่า
“จากกรณีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เรื่องการกระทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวจากการบ้านระบายสีของเด็ก ร.ร.อนุบาลในจังหวัดขอนแก่นเพื่อการขายประกัน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะบริษัทประกันชีวิต ขอร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ทราบเรื่องดังกล่าว ในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันชีวิต ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทันทีและพบว่าบุคคลที่กระทำการดังกล่าวเป็นตัวแทนที่มีสัญญากับบริษัท
ขณะนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด หากพบว่าตัวแทนของบริษัทมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและดำเนินงานขายที่ขัดต่อหลักการทางจริยธรรมและข้อกำหนดของบริษัทฯ บริษัทฯ จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป บริษัทฯ ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทไม่มีนโยบายในการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้มุ่งหวัง ด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้” ซึ่งหนังสือชี้แจงจากบริษัทประกันดังกล่าวจะส่งมาที่โรงเรียนอีกครั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษร
นายประจวบกล่าวต่อว่า ที่จริงทางโรงเรียนมีมาตรการคัดกรองบุคคลภายนอกแน่นหนา จะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในโรงเรียนหากไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเรื่องด่วนจริง ซึ่งมีการสื่อสารผ่านครูประจำชั้นอยู่แล้ว อีกทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.และกล้องวงจรปิดตรวจสอบที่บริเวณหน้าโรงเรียนอีกชั้นด้วย แต่วันดังกล่าวนั้น ทางพนักงานซึ่งแต่งตัวดีอ้างว่ามาจากธนาคาร เดินตรงไปหาหัวหน้าสายชั้นเรียน ป.1 เรียกชื่อถูกต้อง และใช้คำพูดที่ทำให้หัวหน้าสายหลงเชื่อ ว่าได้รับอนุญาตจากผู้บริหารแล้ว
ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวเท่านั้น หากบุคคลหรือองค์กรภายนอกจะขอเข้ามาทำกิจกรรมส่งเสริมการเรียน แต่กรณีนี้กระทำการโดยผิดหลักจรรยาบรรณ ทำให้ครูหลงเชื่อและแจกใบงานดังกล่าวให้กับนักเรียนในระดับชั้น ป.1- ป.3 ซึ่งมีนักเรียนนำกลับไปทำและนำมาส่งครูบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งคืนให้กับครู เพราะทราบข้อเท็จจริงว่าคืออะไร และสามารถสอบถามครูประจำชั้นได้ตลอด
กระทั่งมีผู้ปกครองนำมาโพสต์โซเชียล ซึ่งมองอีกมุมเป็นเรื่องที่ดี ทางโรงเรียนและผู้ปกครองจะได้มีส่วนร่วมกันเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่งด้วย ภายหลังเกิดเรื่องได้เชิญผู้ปกครองทุกคนมาพูดคุย โดยทางผู้ปกครองเข้าใจและทราบในเจตนาทางโรงเรียนดีแล้ว ทางโรงเรียนจะเข้มงวดมาตรการคัดกรองบุคคลภายนอกมากขึ้น กรณีที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อจะเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานว่าทางโรงเรียนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด หากผู้ปกครองได้รับความเสียหาย ทางโรงเรียนพร้อมสนับสนุนข้อมูลทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ขณะที่นายชาญกฤต น้ำใจดี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 (สพป.ขก.เขต 4) กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวโรงเรียนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอซำสูง อำเภอกระนวน อำเภอเขาสวนกวาง อำเภออุบลรัตน์ และอำเภอน้ำพอง มีโรงเรียนในสังกัดจำนวน 175 โรง ในกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 เฝ้าติดตามข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระแสสังคม ซึ่งยังไม่มีข้อมูลเกิดขึ้นในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 ได้กำชับกับโรงเรียนและผู้บริหาร ตลอดจนคุณครูให้เอาใจใส่เรื่องนี้ หากมีกรณีเกิดขึ้นให้ทางโรงเรียนรีบรายงานต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 เร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ต่อไป และได้กำชับถ้ามีกรณีดังกล่าว ทางโรงเรียนของเราจะไม่รับกิจกรรมนี้เข้ามาทำกิจกรรมในโรงเรียน คาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่เขต 4