เชียงราย - ทางการเมียนมาส่งตัว 41 ชาวไทยหนีภัยสงครามรัฐฉานเหนือข้ามแดนท่าขี้เหล็ก-แม่สาย แล้ว ทหาร-ตม.คุมคัดกรองในค่ายทหารทันที เบื้องต้นพบมีคนหนีหมายจับคดียาเสพติด-ฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมพ์ หลายท้องที่อยู่ด้วย
วันนี้ (18 พ.ย. 66) พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง และประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย ได้นำเจ้าหน้าที่ทหาร ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ารับตัวคนไทยจำนวน 41 คน เป็นชาย 23 คน และหญิง 19 คน ที่หนีภัยสงครามรัฐฉานเหนือ ข้ามแดนจากฝั่งท่าขี้เหล็ก กลับไทยผ่านด่านถาวร สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ซึ่งพบว่าทั้งหมดเป็นคนวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 20-40 ปี ที่หนีการสู้รบจากเมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองตนเองโกกั้ง รัฐฉานตอนเหนือ ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากทหารว้าและทหารกองทัพภาคสามเหลี่ยม ประเทศเมียนมา และนำส่งตัวข้ามแดนกลับไทย
โดยทางไทยได้จัดรถบัสจากมณฑลทหารบกที่ 34 และมณฑลทหารบกที่ 37 จำนวน 2 คันไปรอรับ เมื่อทางการเมียนมานำทั้งหมดเดินทางไปถึงบริเวณด่านพรมแดนมีการลงนามรับบุคคลระหว่างด่าน ตม.เชียงราย กับด่าน ตม.ท่าขี้เหล็ก กรณีรับบุคคลที่เข้าเมืองเมียนมาอย่างผิดกฎหมายภายใต้การยินยอมของทั้งสองฝ่ายเพื่อนำกลับประเทศไทย ก่อนที่จะพาทั้งหมดขึ้นรถบัสแยกชายหญิงพาเดินทางไปยังค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย ทันที เพื่อคัดกรองโรคแล้วจึงค่อยคัดแยกบุคคลก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของ ตม.เชียงราย
มีรายงานว่าในกลุ่มคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือส่งกลับประเทศครั้งนี้ มีผู้ที่หลบหนีหมายจับจากประเทศไทย ทั้งข้อหายาเสพติด ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาฉ้อโกงทรัพย์และนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ จำนวน 3-4 คน
ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ตั้งศูนย์บูรณาการคัดแยกเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากปัญหาการค้ามนุษย์ จ.เชียงราย ภายในกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.เชียงราย ที่ 1 อ.เมืองเชียงราย รองรับคนไทยที่หนีภัยสงครามมาจากประเทศเมียนมาดังกล่าว โดยมีทีมสหวิชาชีพและผู้ที่เกี่ยวข้องทำการคัดแยกผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังมีคนไทยที่ยังไม่ได้เดินทางกลับตกค้างในรัฐฉานโดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองโกกั้งและใกล้เคียงอีกอย่างน้อย 240 คน ซึ่งทาง TBC ฝ่ายไทยจะประสานความร่วมมือกับฝ่ายเมียนมาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติต่อไป
