กาญจนบุรี - ผอ.เจ้าท่า อบต.ลาดหญ้า ลงพื้นที่ตรวจสอบถมดินลงแม่น้ำแควใหญ่ จ่อดำเนินคดี พ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย พร้อมสั่งให้นำวัสดุเทกองกีดขวางออกไปให้พ้นภายใน 3 วัน
จากกรณีมีนายทุนนำหินและทรายถมลงไปในแม่น้ำแควใหญ่ แล้วนำรถแบ็กโฮเข้าไปปรับพื้นที่เพื่อความสวยงาม โดยไม่ทราบว่าผู้กระทำการดังกล่าวนั้นมีจุดประสงค์ต้องการทำอะไร ซึ่งขณะนั้นมีผู้ถ่ายภาพขณะรถแบ็กโฮกำลังปรับพื้นที่เอาไว้ได้ แล้วมีการนำไปโพสต์ลงโซเชียล โดยผู้โพสต์ได้โพสต์ภาพดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย.66
ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ฝั่งตรงข้ามกับวัดทุ่งลาดหญ้า หมู่ 4 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อมาวันที่ 10 พ.ย.เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี ได้รับการร้องเรียนจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบเพียงร่องรอยการขุดปรับพื้นที่ ส่วนรถแบ๋กโฮได้ถูกเคลื่อนย้ายไปก่อนหน้านี้ จึงได้มีการเดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ลาดหญ้า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 พ.ย.) นายวงศกร นราธาวา หัวหน้ากลุ่มนิติกรรมสัญญา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี พร้อมด้วย น.ส.นงนภัส ทับทิมศรี นายอุสาห์ รอดหยู่ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี รวมทั้ง น.ส.สุภาพร เสือส่าน นายอิทธิพร เสือส่าน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลาดหญ้า จ.อ.ณรงค์ธร สวัสดิ์มี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลลาดหญ้า นายธนพล เสือส่าน กำนันตำบลลาดหญ้า ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าวข้างต้น
จากการตรวจสอบทราบว่า นายกฤษฎา (ขอสงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของที่ดินแปลงริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เป็นผู้ว่าจ้างให้นำรถแบ็กโฮ มาขุดลอกแม่น้ำ โดยให้เหตุผลกับเจ้าหน้าที่ว่าทำเพื่อป้องกันกระแสน้ำกัดเซาะริมตลิ่งพังเสียหาย ซึ่งขณะนี้นายกฤษฎา กำลังให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า คาดว่าจะส่งฟ้องภายในวันนี้ ในข้อกล่าวหาความผิดตามมาตรา 120 แห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456
ทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้วเห็นว่าบริเวณที่เกิดเหตุมีวัสดุที่เทกองในแม่น้ำแควใหญ่ในลักษณะเป็นอันตรายแก่ประชาชนหรือแก่การเดินเรือทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพตลิ่งในบริเวณใกล้เคียง
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อที่ชายตลิ่ง รวมทั้งที่ดินบริเวณข้างเคียง และสภาพแวดล้อมทางน้ำในบริเวณดังกล่าวอันมีผลมาจากการกระทำผิดกฎหมาย ตลอดจนเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายในการดูแลรักษาสภาพลำน้ำสาธารณะที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมเจ้าท่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้มีการกระทำผิดดังกล่าวอันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ
นายวงศกร นราธาวา หัวหน้ากลุ่มนิติกรรมสัญญา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี จึงมีคำสั่งให้นำวัสดุที่เทกองกีดขวางทางน้ำออกให้พ้นจากแม่น้ำแควใหญ่ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ห้ามนำวัสดุที่เทกองกีดขวางทางน้ำออกนอกพื้นที่ดังกล่าวเด็ดขาด โดยการวางวัสดุให้กระทำในบริเวณริมฝั่ง และชายตลิ่งที่ยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่าบริเวณที่เกิดเทตุเท่านั้น
ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วหรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการกระทำความผิดดังกล่าว จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในทางแพ่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดด้วย