พระนครศรีอยุธยา - ระทึก! เรือบรรทุกทรายชนตอม่อล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าร้านอาหารแอบแซ่บ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เย็นวันนี้ (7 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีเรือเหล็กบรรทุกทรายล่ม หน้าร้านอาหารแอบแซ่บ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีพนักงานของร้านอาหารสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ขณะที่เรือเหล็กบรรทุกทราย จำนวน 4 ลำ ไหลมาตามกระแสน้ำ จากนั้นไหลผ่านใต้ สะพานบ้านป้อม-ภูเขาทอง (สะพานสวนนก) เรือเหล็กบรรทุกทรายลำแรกชนตอม่อสะพานค่อยๆ จมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 1 ลำ ส่วนเรือเหล็กบรรทุกรายอีก 3 ลำที่เหลือได้ปล่อยไหลตามกระแสน้ำ จนกระทั่งมีพลเมืองดีช่วยน้ำเชือกมาผูกไว้อยู่ริมตลิ่งหน้าวัดพระงาม ซึ่งห่างจากจุดที่เรือล่มประมาณ 500 เมตร ขณะนี้เรือลำที่ 2 ที่ อยู่ริมตลิ่ง หัวเรือค่อยจมน้ำลงไปอีกลำเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออก
จากการสอบถามคนขับเรือให้ข้อมูลว่า เรือยนต์ลากจูงที่โต้งท้ายเกิดเสีย จึงได้ตัดเชือกออกให้เรือไหลมาตามกระแสน้ำจนมาถึงใต้สะพานสวนนก ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร มีกระแสน้ำแรง พยายามจะนำเรือยนต์ที่บังคับเรืออยู่ด้านหน้าจะเปลี่ยนไปตรงท้ายเรือ เพื่อไม่ให้เรือไหลไปกระแทกกับตอม่อ แต่ไม่ทันเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงโค้งน้ำ ทำให้เรือเหล็กบรรทุกทรายกระแทกเข้ากับตอม่อจึงเกิดรอยร้าว จนกระทั่งทำให้เรือบรรทุกทรายจมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้าน ร.อ.ทวีพงษ์ รินนาศักดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อบต.บ้านป้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีเรือบรรทุกทรายชนตอม่อสะพานบ้านป้อม-ภูเขาทอง (สะพานสวนนก) ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เกิดเหตุล่มหน้าร้านอาหารแอบแซ่บ ติดวัดพระงาม
จากการตรวจสอบพบว่า เรือบรรทุกทรายมาจากอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มุ่งหน้า อำเภอสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งต่อพ่วงมาจำนวน 4 ลำ มีเรือลากจูงจำนวน 1 ลำ และเรือดึงท้ายจำนวน 1 ลำ ระหว่างเดินทางเกิดเหตุเรือดึงท้ายเสียก่อนลอดสะพานดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับกระแสน้ำมีความเชี่ยว เป็นเหตุให้เรือเหล็กบรรทุกทรายลำที่ 1 กระแทกกับตอม่อ เกิดการแตกรั่วน้ำไหลเข้าสู่ท้องเรือล่มลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 1 ลำ และลำที่ 2 เกิดรั่วจากการกระแทกดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อม จึงนำเครื่องสูบน้ำขนาด 3 นิ้ว 5 แรงม้า เข้าทำการสูบน้ำออกจากเรือลำที่ 2 เพื่อป้องกันการล่ม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์แล้ว มีการสั่งหยุดการเดินเรือชั่วคราวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และทำการซ่อมแซม เรือเหล็กบรรทุกทรายที่เหลือ จำนวน 3 ลำ นำมาจอดชิดรวมกันริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเรือเหล็กบรรทุกทรายที่จมลงในแม่น้ำเจ้าพระยาได้มีการนำทุ่นลอยน้ำไปติดตั้งทำสัญลักษณ์ไว้เรียบร้อยเตรียมดำเนินการกู้ในวันพรุ่งนี้
ต่อมา นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา หลังจากรับแจ้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เปิดเผยว่า จาการตรวจสอบพบเรือบรรทุกทรายทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดสมุทรปราการ สาเหตุเกิดจากเรือยนต์ลากจูงดึงท้ายเกิดขัดข้อง ทำให้เรือบรรทุกทรายทั้ง 4 ลำเสียการทรงตัว เรือยนต์ที่ลากจูงหัวขบวนพยามยามจะไปช่วยดึงท้ายแต่ไม่ทันเรือเกิดชนกับตอม่อสะพานจนเกิดรั่วน้ำไหลเข้าเรือ จมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเรืออีกลำมีน้ำไหลเข้าเรือได้สูบน้ำออกจากเรือได้ทันเรือไม่เกิดความเสียหาย
ตอนนี้ได้สั่งการปิดน่านน้ำงดการเดินเรือของเรือบรรทุกสินค้า พร้อมกับออกคำสั่งให้ทางผู้ประกอบการเร่งทำการกู้เรือให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน การกู้เรือต้องทำการนำทรายออกจากตัวเรือก่อน เนื่องจากทรายมาผสมกับน้ำแล้วจะแข็งตัว ซึ่งต้องใช้เครื่องมือ รถเครนและอุปกรณ์ ในการที่จะนำทรายออกจากเรือ โดยคาดว่าเรือเก็บกู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ จะมาถึงในพรุ่งนี้เช้า และจะดำเนินการทันที