สามเหลี่ยมทองคำ - จนท.รวบชาวจีนหนีเข้าเมืองขึ้นสามเหลี่ยมทองคำฝั่งไทยต่อเนื่อง ล่าสุดเจออีก 4 รายลอบข้ามแดนจากฝั่ง “คิงส์โรมัน สปป.ลาว” คาดหนีทางการจีน-พม่าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังไปชายแดนแม่สอด-สระแก้ว
วันนี้ (14 พ.ย. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย กองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจตราตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา ติดกับแม่น้ำโขงตรงสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน บริเวณริมฝั่งพื้นที่หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน พบชายชาวจีนจำนวน 4 คนเดินอยู่ริมฝั่ง
ทราบชื่อต่อมาคือ นายหลัว ชาง อายุ 23 ปี นายจ้าว กวง อายุ 21 ปี นางหลิว ชุน อายุ 29 ปี และนางหยาง เปา หลิง อายุ 20 ปี โดยทุกคนต่างไม่มีเอกสารหรือหนังสืออนุญาตเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมาแสดง
สอบถามเบื้องต้นให้การว่าได้เดินทางมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (คิงส์โรมัน) เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามแม่น้ำโขงกับ อ.เชียงแสน โดยนั่งเรือข้ามฝั่งมาแล้วจะพากันไปท่องเที่ยวในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดส่ง สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า นับตั้งแต่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเจริญเติบโตขึ้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้หลบหนีเข้าเมืองบ่อยครั้ง จากเดิมมีเพียงชาวสัญชาติลาวและเมียนมา ก็พบชาวจีนหลบหนีเข้าออกเมืองหลายครั้ง ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 20-40 ปี
เฉพาะเดือน พ.ย. 2566 นี้จับกุมได้แล้วหลายราย เช่น วันที่ 1 พ.ย.จับกุมนายอาลิ อีฉา อายุ 20 ปี และชายอายุเพียง 16 ปี ขณะเดินอยู่ริมถนนหน้าวัดหัวกว๊าน หมู่ 15 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน วันถัดมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายเฉิน จงซี อายุ 32 ปี ได้บริเวณสามเหลี่ยมทองคำหมู่บ้านสบรวก วันที่ 16 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จับกุมตัวชาวจีนได้ถึง 21 คน ขณะหลบหนีเข้าเมืองไปพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ฯลฯ ทั้งนี้ชาวจีนส่วนใหญ่มักอ้างว่าเข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่มีการลักลอบเข้าเมืองในช่วงนี้บ่อยครั้งขึ้น เพราะรัฐบาลจีนและเมียนมามีการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งมีการสู้รบกันของกองกำลังชนกลุ่มน้อยและทหารเมียนมา ทำให้กลุ่มขบวนการอาจมีการย้ายฐานก่อการ เดินทางผ่านประเทศไทยเพื่อจะไปยังเมืองส่วยโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา หรือชายแดนด้านกัมพูชา