ศูนย์ข่าวนครราชสีมา– แม่ว่าที่เจ้าบ่าวลมแทบจับ เจอโจรงัดบ้านขโมยเงินสินสอดกว่า 2 แสน และทองคำ หนัก 5 บาท ที่เตรียมนำไปจัดงานแต่งงานให้ลูกชายหมดเกลี้ยง รวมมูลค่าเกือบ 4 แสนบาท ล่าสุดแม่แง้มสงสัยฝีมือคนในครอบครัว ยังไม่แจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (10 พ.ย.) พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นางสาววรัทยา รั้วชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านส่วย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่ามีโจรเข้าไปขโมยเงิน 200,000 บาท และสร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท ภายในบ้านของลูกบ้านของตน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พิมาย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3
ในที่เกิดเหตุพบกับนางมาลัย สมบูรณ์ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 290 ม.3 บ้านส่วย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เจ้าของบ้าน ซึ่งกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางมาลัย บอกว่า ได้เก็บเงินใส่กระเป๋าไว้จำนวนกว่า 200,000 บาท และสร้อยคอทองคำไว้ในตลับใส่ทองจำนวน 7 ตลับ มีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท 2 เส้น แหวนหนัก 1 บาท 1 วง รวมทองคำทั้งหมด 5 บาท เก็บไว้ในตู้ข้างห้องนอนของลูกชาย
ถูกคนร้ายย่องเข้ามาขโมยไปทั้งหมดพร้อมเงินสด 200,000 บาท เงินและทองคำ ซึ่งตนและลูกชายได้เก็บสะสมไว้เพื่อจะไปแต่งงานให้กับ นายฐิรวัฒน์ สมบูรณ์ อายุ 24 ปี ลูกชาย ในวันที่ 7 ธ.ค.66 ที่ จ.ชัยภูมิ ในระหว่างนี้แฟนสาวของลูกชายก็ได้มาอยู่ด้วยช่วยกันทำงานหาเงินช่วยกัน
ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ตนและลูกออกไปขายของในงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ไม่มีคนนอนอยู่ในบ้าน กลับมาบ้านในเวลา 5 ทุ่ม ก็เข้านอนไม่ได้สังเกตดูตู้ข้างห้องนอน จนตื่นมาตอนเช้ามองไปที่ตู้เห็นกุญแจหลุดออก จึงเปิดประตูตู้ดูกระเป๋าใส่เงินไว้และตลับใส่ทองคำ จึงรู้ว่าหายไป เมื่อเดินออกมานอกบ้านข้างกำแพงบ้านพบตลับใส่ทองและกระเป๋าวางอยู่ ซึ่งคาดว่าโจรเปิดเอาแต่ทองไป และในกระเป๋าเงินสด 200,000 บาท หายไปหมดเหลือไว้ส่วนหนึ่งเป็นธนบัตรฉบับย่อย
ส่วนกล้องวงจรปิดภายในบ้านติดไว้ทุกมุมบ้านแต่เสียทุกตัว คนร้ายน่าจะปีนกำแพงบ้านเข้ามาและใช้กุลแจผีเปิดประตูบ้านเข้าไปและตู้ที่เก็บเงินและทองคำเอาไว้เพราะไม่มีร่องรอยงัด เมื่อ 2 วัน ก่อนแฟนของลูกชายผันว่ามีคนเข้ามาขโมยทองไป ไม่คิดว่าจะเป็นความจริงที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพิสูจน์หลักฐานหาร่องรอยนิ้วมือไว้ และจะได้ติดตามสืบหาคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ความคืบหน้าล่าสุด นางมาลัย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากได้มีการพูดคุยกับทางลูกชายและลูกสะใภ้ว่าอาจจะเป็นลูกหลานหรือคนในครอบครัวเนื่องจากไม่มีร่องรอยการถูกงัดแงะจากภายนอก และนอกจากนี้ภายในบ้านไม่มีร่องรายการรื้อค้นหาทรัพย์สินอื่นๆ จึงทำให้น่าเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นฝีมือบุคคลภายนอก แต่ด้วยความตกใจกับทรัพย์สินที่หายซึ่งมีมูลค่ามากทั้งเงินสดกว่า 2 แสนบาท และทองที่หายไปอีกและที่สำคัญคือทรัพย์สินดังกล่าวนั้นเป็นสินสอดที่ลูกชายเตรียมไปสู่ขอลูกสะใภ้ที่จังหวัดชัยภูมิ ทำให้ได้โทรฯหาตำรวจมาช่วยตรวจสอบหาร่องรอยของคนร้าย