รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงติดตามอย่างต่อเนื่องให้เร่งผู้ประกอบการเอาแร่โปแตชเข้าระบบ เพิ่มวัตถุดิบเข้าระบบการผลิตปุ๋ยเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตร ลดต้นทุน พัฒนาเศรษฐกิจ ให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่
วันนี้ (10 พ.ย.) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย่้ำว่า จากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามและสอบถามถึงสถานการณ์การผลิตแร่โปแตชในประเทศไทย พร้อมสั่งการ และให้นโยบายในการนำการผลิตแร่เข้าระบบนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งติดตามและสอบถามถึงความคืบหน้าไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับสัมปทานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
รองโฆษก รัดเกล้า กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นแหล่งแร่โปแตชมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รองจากแคนาดา ซึ่งแร่โปแตชถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ย โดยจากสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังขาดแคลนแร่โปแตช ส่งผลให้ราคาปุ๋ยที่เกษตรกรรับซื้อมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งไทยมีผู้ประกอบการเข้ารับสัมปทานจำนวน 3 ราย (ในจังหวัดชัยภูมิ อุดรธานี และ นครราชสีมา) ที่ต้องเข้าระบบตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากยังไม่ดำเนินการ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งหาผู้ดำเนินการรายใหม่เข้าดำเนินการ เพื่อให้มีวัตถุดิบเข้าไปในระบบการผลิตปุ๋ยเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องให้ได้อย่างรวดเร็ว
“แร่โปแตชถือเป็นสารตั้งต้นสำคัญที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยสู่เกษตรกร ซึ่งไทยนำเข้าปุ๋ยปีละหลายล้านบาท หากผลิตปุ๋ยจากแร่โปแตชได้เอง ก็จะช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร ส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ และสร้างอาชีพใหม่ที่ต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นการนำเอาทรัพยากรที่ประเทศไทย มีมหาศาล มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ คาดว่า หากสามารถนำแร่ที่มีอยู่ในไทยมาใช้ได้ จะสามารถประหยัดการนำเข้าปุ๋ยได้ปีละเกือบ 1 หมื่นล้านบาท” รองโฆษก รัดเกล้า กล่าว