กาญจนบุรี - แม่ค้าหน้าด่านเจดีย์ฯ เดือด ทนเหม็นกลิ่นยางพารา แถมฉี่เรี่ยราดมานาน 4 เดือนไม่ไหว ไร้การแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โพสต์เฟซประจาน ร้องสื่อช่วย
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Mam Wanida Kanthauont” นำภาพสภาพพื้นดินที่เป็นหลุมเป็นบ่อเปียกแฉะไปด้วยโคลน รวมทั้งน้ำฝนและน้ำยางพาราที่ไหลลงมาจากรถพ่วงบรรทุกยางพาราที่จอดเรียงรายอยู่ที่บริเวณดังกล่าวหลายสินคัน มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับบรรยายรายละเอียดถึงผลกระทบจากมลพิษทางอากาศเอาไว้ว่า
"เราขอใช้พื้นที่ระบายเราเป็นแม่ค้าหน้าด่านเจดีย์ และเราเป็นคนเจดีย์ต้องมาทนดมกลิ่นเหม็นเน่าของยางพารามาตลอดหน้าฝน และมีหน่วยงานเข้ามาคุยว่าจะหาทางย้ายที่ขนถ่ายยางพารา นี่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน แล้วขณะนี้ยังเหมือนเดิม ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นด่านผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวและค้าขายของเบ็ดเตร็ดแบบวิถีชาวบ้านพอเพียง ตรงไหนคะ"
"ที่สำคัญขณะนี้รถบรรทุกสิบล้อพ่วงขนยางพาราเต็มหมู่บ้านไปหมดจอดกันเต็มสองฟากทาง และลานจอดรถที่ด้านหน้ามีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวจอดก็เป็นที่ขนถ่ายยางพารา #ณ ตอนนี้ด่านเจดีย์สามองค์ที่เป็นประวัติที่ผ่านมายาวนานคงต้องปิดตัวลงแล้ว#เพราะกลายเป็นที่ขนสินค้าโดยเฉพาะยางพารา เราชาวแม่ค้าคงต้องหาทางเปลี่ยนอาชีพเพื่อความอยู่รอดกัน เพราะไม่มีใครมาช่วยเราได้ จึงฝากข้อความนี้ถึงผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ ขอความอนุเคราะห์จากท่านขอช่วยเหลือเราชาวด่านเจดีย์สามองค์ด้วยค่ะ ขอขอบคุณนะคะ เรามีภาพให้ดูด้วยนะว่าคุณมาแล้วทิ้งอะไรไว้ให้เราชาวเจดีย์บ้างนะ"
1.ลานจอดรถ ถนนพังเป็นหลุมเป็นบ่อ หน้าฝนก็เละไม่มีนักท่องเที่ยวมาจอด 2.การจราจร นักท่องเที่ยวชาวบ้านจอดรถ หาที่จอดรถไม่ได้เพราะรถยางจอดเต็มพื้นที่ 3.ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล นักท่องเที่ยวจอดรถพอเปิดประตูก็รีบปิดประตูบอกเหม็น แล้วถามว่าทนอยู่ได้ยังไงเราบอกว่าต้องทนค่ะ เพราะเราต้องทำมาหากินที่นี่ และ 4.คนงานจากฝั่งพม่าที่มายกขนถ่ายยางมีส่วนน้อยที่มาเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่าย คงไม่ต้องบอกนะว่าขับถ่ายกันที่ใดก็ข้างกำแพงวัดไงค่ะ แล้วทิ้งขยะให้เกลื่อนกลาด ขึ้นมาทำงานวันละประมาณ 40-50 คนมองจากสายตานะคะ มีเรื่องอีกมากมายค่ะมาสอบถามเราได้ค่ะ เราอยู่หน้าด่านมาหาเราได้ค่ะ ขอขอบคุณที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ
จากกรณีข้างต้นล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบเจ้าของเฟซบุ๊ก ทราบชื่อคือ คุณแหม่ม เป็นเจ้าของร้านขายกาแฟ ร้านอยู่ติดกับลานจอดรถที่มีการขนถ่ายยางพารา พื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยคุณแหม่ม ผู้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวว่า ทุกวันนี้พวกเราได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะปกติในช่วงฤดูฝนแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลย แต่ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ฝนเริ่มหยุดตก นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแล้วเพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน แต่ปรากฏว่าปัจจุบันบริเวณลานที่มีไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นำรถไปจอดเต็มไปด้วยรถพ่วงขนถ่ายและบรรทุกยางพาราที่ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ เมื่อนักท่องเที่ยวมาไม่มีที่จอด แถมเวลาเปิดประตูออกมากลิ่นพุ่งกระจายเข้าไปในรถของนักท่องเที่ยว ทำให้ทุกคนต้องเดินทางกลับทันที
จากกลิ่นที่เหม็น ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่างเดือดร้อนไปทั่ว ส่วนตัวแล้วพี่ทนกับกลิ่นเหม็นนี้มานานกว่า 4 เดือนแล้ว ดังนั้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยชาวบ้านอย่างพวกเราที่ทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ด้วย ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วย จึงจำเป็นต้องอาศัยสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้
ขณะที่นางเล็ก เจ้าของร้านขายของที่ระลึก บริเวณตลาดด่านเจดีย์สามองค์ กล่าวว่า ทุกวันนี้พวกเราเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของยางพาราเป็นอย่างมาก เนื่องจากขายของไม่ได้ เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงแล้วได้กลิ่นเหม็นก็ไม่แวะที่ร้าน ส่วนที่ลานขนสินค้าขยะเต็มไปหมด เนื่องจากคนงานที่มาแบกยางพาราทิ้งกันเรี่ยราด เวลาปวดฉี่ไม่ยอมเข้าห้องน้ำแต่กลับไปยืนฉี่ข้างกำแพงวัดกันหมด ทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเหม็นทั้งฉี่และขี้ยางไปด้วย
นอกจากนี้ รถบรรทุกยางพาราที่วิ่งมาจากฝั่งประเทศพม่า ทำให้มีฝุ่นละอองกระจายไปตามอากาศ ซึ่งช่วงนี้กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ฝุ่นได้ปลิวกระจายไปเกาะสินค้าที่นำมาวางขายเป็นจำนวนมาก นอกจากกลิ่นแล้ว ทำให้ต้องมาเสียเวลาทำความสะอาดสินค้าและร้านค้าแทบทุกวันที่มีการมาขนถ่ายยางพารา
สำหรับพื้นที่ด่านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ภูมิประเทศตั้งอยู่บริเวณช่องเทือกเขาตะนาวศรี ที่กั้นพรมแดนไทย-พม่า มีความสูง 282 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
