สระบุรี - แม่คาใจ ขุดศพน้องไฮเทค วัย 3 ขวบ ร้องขอความเป็นธรรม หมอ ร.พ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี รักษาจนเสียชีวิต 9 เดือนเรื่องไม่คืบ
วันนี้ (6 พ.ย.) จากกรณี ว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ ภู่สุข ได้ร้องเรียนเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 6 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ปีนี้ พร้อมกับระบุข้อความว่า #ร้องเรียนตรวจสอบ น่าจะผิดพลาดจากจุดไหนอย่างไร...และถ้าผิดพลาดจริงต้องชดเชยเยียวยาหรือไม่..น้องยังน่ารักอยู่เลย ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องด้วยค่ะ #สระบุรี #เหตุการณ์วันที่น้องไม่อยู่กับแม่แล้ว
เนื่องจากน้องเป็นไข้หวัด แต่อาการหวัดหายไปแล้ว 2-3 วัน ต่อมาน้องมีอาการซึม มีไข้อ่อนๆ ค่ะ หายใจหอบ พาน้องไปโรงพยาบาล หมอแจ้งว่า น้องมีอาการหลอดลมอักเสบ พ่นยาแล้วกลับบ้าน พอตกดึกน้องมีอาการหอบหนักขึ้น เลยพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง หมอให้ออกซิเจน เพราะค่าออกซิเจนต่ำมาก สักพักนึงหมอเดินออกมาบอกว่าน้องหัวใจหยุดเต้น เลยปั๊มหัวใจให้น้อง แต่น้องไม่ตอบสนอง ซึ่งแม่น้องยังคาใจในการรักษา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 พ.ย.) ว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ ภู่สุข พร้อมด้วยนายอาลัยรัก วรวัฒน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นางบุปผา วรวัฒน์ คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ จังหวัดสระบุรี ภาคประชาชน ผู้ประสานงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการเข้ารับบริการรักษาในสถานพยาบาล เอกชน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ให้ดำเนินการนำศพ น้องไฮเทค ขึ้นมาชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตาย หลังจากพบว่า น้องไฮเทค เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนตามที่เป็นข่าวเมื่อต้นปี 2566 จนกระทั่งถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 9 เดือนแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการชันสูตรพลิกศพน้องไฮเทค แต่อย่างใด แต่ได้ส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณาดำเนินการชี้มูลตามที่แม่น้องไฮเทค ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ จึงเห็นว่าแม่น้องไฮเทค จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ร้องทุกข์ไปยัง เจ้าพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายที่แท้จริง โดย ทนายความได้มอบเอกสารของโรงพยาบาลเอกชนเกี่ยวกับการรายงานการตายที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่ได้จากแม่ของน้องไฮเทค ให้พนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบสวน และดำเนินคดีโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว
จากนั้นได้เดินทางไปสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งไปยังแพทยสภาให้ระงับการพิจารณาไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการชันสูตรพลิกศพ พร้อมแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ให้ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายก่อน โดยมีนายแพทย์สมชาติ สุจริตรังสี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ได้รับเอกสารร้องเรียนโรงพยาบาลเอกชนและใบแจ้งความดำเนินคดีของ สภ.เมืองสระบุรี และขอให้เดินทางไปเป็นสักขีพยานในการขุดศพเด็กชายวัย 3 ขวบขึ้นมาชันสูตร
จากนั้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เดินทางไปวัดเขาน้อย ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อทำการเปิดเบ้าเก็บศพของน้องไฮเทค เพื่อส่งให้แพทย์ทางนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจ ได้ชันสูตรพลิกศพ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ไปร่วมการเปิดเบ้าศพของน้องไฮเทค พร้อมพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ในระหว่างที่ดำเนินการอยู่นั้นได้เกิดลมพัดแรง ฟ้ามืดครึ้ม ผู้เป็นพ่อและแม่ของน้องไฮเทค ได้จุดธูป 1 ดอก เพื่อบอกกล่าวน้องไฮเทค จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ได้เปิดเบ้าเก็บศพ เห็นสภาพศพน้องไฮเทคยังมีเส้นผมไม่หลุดร่วง ผิวแห้งคล้ำ เหมือนเด็กนอนหลับ ภายในโลงยังมีเสื้อผ้า ของเล่นชนิดต่างๆ
ว่าที่ ร.ต.หญิง พัชญาวีร์ แม่น้องไฮเทค กล่าวว่า มาถึงขั้นตอนตรงนี้ที่มีการขุดศพขึ้นมาตนรู้สึกดีใจที่ลูกกำลังจะได้รับความเป็นธรรม แต่อีกใจไม่อยากเห็นสภาพตอนที่เขาอยู่ตรงนี้ เป็นห่วงตรงที่โรงพยาบาลจะออกมารับผิดชอบไหม เพราะว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยติดต่อ หรือชี้แจงอะไร หลังจากที่มีการชันสูตรแล้ว ตนจะเก็บร่างน้องเอาไว้ จะไม่ทำพิธีใดๆ จนกว่าน้องจะได้รับความยุติธรรม
ด้านนายอาลัยรัก วรวัฒน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ เผยว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองสระบุรี เพราะว่าในกรณีนี้ผู้เสียหายติดใจกรณีการตายของลูกชายที่ไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนดังตามที่มีข่าว แต่เราเพิ่งพบข้อผิดพลาดศพยังไม่ได้รับการชันสูตรพลิกศพ และความเห็นแพทย์ด้านนิติเวชศาสตร์ให้เขารับรองการตายที่แน่นอน
เนื่องจากการชันสูตรพลิกศพกับความเห็นของแพทย์ยังไม่มี วันนี้ผู้เสียหายจึงไปร้องเรียนพนักงานสอบสวนกับผู้ที่เกี่ยวข้องมาเปิดศพ เพื่อที่จะไปชันสูตรพลิกศพต่อไปว่าสาเหตุการตายคืออย่างไรกันแน่ จากนั้นจึงจะสามารถเอาผิดได้ หลังจากการชันสูตรแล้วจะมีการดำเนินการไปยังแพทยสภาขอให้ชะลอเรื่องการพิจารณาตรงนี้ จนกว่าผลของการชันสูตรพลิกศพจะออกมา