กาญจนบุรี - หนุ่ม นศ.ปริญญาตรี ชาวปิล๊อกคี่สุดปลื้ม หลังได้รับบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านครั้งแรกในชีวิต ยันจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในฟาร์มเพาะปลูก เพื่อกลับมาต่อยอดการเกษตรที่บ้านเกิดในอนาคต
วันนี้ (2 พ.ย.) นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยท่านร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีนโยบายให้อำเภอทองผาภูมิ แก้ไขปัญหาเรื่องสถานะบุคคลและสัญชาติให้แก่บุคคลที่ไร้สัญชาติ ตามโครงการกำหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติของกรมการปกครอง
โดยอำเภอทองผาภูมิได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้สถานะหรือพิจารณาสัญชาติแก่กลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก ได้แก่ 1.กลุ่มเด็กนักเรียนและนักศึกษาที่มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยอักษร G 2.กลุ่มนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนเพียงหลวง 3 ที่มีอยู่ 3 สาขา ประกอบด้วย โรงเรียนเพียงหลวง 3 (บ้านเหมืองแร่อีต่อง) โรงเรียนเพียงหลวง 3 (พระธาตุโบอ่อง) และโรงเรียนเพียงหลวง 3 (บ้านใหม่ไร่ป้า) 3.กลุ่มพระภิกษุสงฆ์และสามเณร
อำเภอทองผาภูมิได้ดำเนินการรับคำร้องจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวประชาชน และการพิจารณาให้มีสัญชาติไทย โดยตรวจสอบความถูกต้องและสอบสวนพยานบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเพื่อส่งคำร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการพิจารณาดำเนินการต่อไป
โดยวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา อำเภอทองผาภูมิได้มอบบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านให้แก่นายดีชัย ศุภหิรัญขจร กรณีพิจารณาอนุมัติให้สัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง และอนุมัติเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านในวันเดียวกันด้วย
โดยนายดีชัย ศุภหิรัญขจร อายุ 28 ปี ที่ได้รับมอบบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านนั้น เกิดที่บ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร สาขาเทคโนโลยีการผลิตพืชและภูมิทัศน์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตจันทบุรี
วันที่ได้รับบัตรประชาชนเป็นครั้งแรกนั้นได้เผยความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองและครอบครัวรู้สึกดีใจที่สุด วันนี้เป็นวันสำคัญที่รอคอยมาตลอดชีวิต โดยตนได้ยื่นเรื่องขอมีสัญชาติไปหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2566 ได้รับอนุมัติพิจารณาสัญชาติไทยในที่สุด
ปัจจุบัน ตนประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างผู้ช่วยนักปลูก บริษัท Mata World Cannabis Farm ที่ผ่านมาตนคิดถึงอนาคตว่าเราจำเป็นต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย เพราะเมื่อไปทำงานหากเราไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย อาจโดนสังคมรอบข้างดูถูกดูแคลน ตนจึงมุ่งมั่นตั้งใจ ขยันเล่าเรียนจนจบปริญญาตรีให้สำเร็จลุล่วง เพราะการไม่มีสัญชาติไทยเป็นปมด้อยของตนตลอดมา วันนี้จะตั้งใจทำงานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานในฟาร์มเพาะปลูก เพื่อกลับมาต่อยอดการเกษตรที่บ้านเกิดต่อไป
นอกจากนี้ นายดีชัย ยังได้กล่าวฝากให้กำลังใจถึงเยาวชนและน้องๆ ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยและยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนว่า หากน้องๆ คนไหนที่ต้องการขอสัญชาติไทย ขอให้มีความขยันอดทนและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้จบปริญญาตรี และโอกาสในการขอสัญชาติไทยจะเป็นของผู้ไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อำเภอทองผาภูมิ ได้จัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวประชาชนในกลุ่มเด็กนักเรียนอักษร G ไปแล้ว จำนวน 1,217 ราย กลุ่มนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนเพียงหลวง 3 ทั้ง 3 สาขา ซึ่งกลุ่มนี้ได้พิจารณาอนุมัติสัญชาติไทยแล้ว จำนวน 103 ราย ส่วนกลุ่มพระภิกษุสงฆ์และสามเณร จำนวน 58 รูป อำเภอทองผาภูมิ ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติเพื่อจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนต่อไป และสุดท้าย กลุ่มที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 1 กลุ่มคือ กลุ่มนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว และกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอทองผาภูมิอีกประมาณ 50 ราย
วันนี้ (2 พ.ย.) นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยท่านร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีนโยบายให้อำเภอทองผาภูมิ แก้ไขปัญหาเรื่องสถานะบุคคลและสัญชาติให้แก่บุคคลที่ไร้สัญชาติ ตามโครงการกำหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติของกรมการปกครอง
โดยอำเภอทองผาภูมิได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้สถานะหรือพิจารณาสัญชาติแก่กลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก ได้แก่ 1.กลุ่มเด็กนักเรียนและนักศึกษาที่มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยอักษร G 2.กลุ่มนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนเพียงหลวง 3 ที่มีอยู่ 3 สาขา ประกอบด้วย โรงเรียนเพียงหลวง 3 (บ้านเหมืองแร่อีต่อง) โรงเรียนเพียงหลวง 3 (พระธาตุโบอ่อง) และโรงเรียนเพียงหลวง 3 (บ้านใหม่ไร่ป้า) 3.กลุ่มพระภิกษุสงฆ์และสามเณร
อำเภอทองผาภูมิได้ดำเนินการรับคำร้องจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวประชาชน และการพิจารณาให้มีสัญชาติไทย โดยตรวจสอบความถูกต้องและสอบสวนพยานบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเพื่อส่งคำร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการพิจารณาดำเนินการต่อไป
โดยวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา อำเภอทองผาภูมิได้มอบบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านให้แก่นายดีชัย ศุภหิรัญขจร กรณีพิจารณาอนุมัติให้สัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง และอนุมัติเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านในวันเดียวกันด้วย
โดยนายดีชัย ศุภหิรัญขจร อายุ 28 ปี ที่ได้รับมอบบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านนั้น เกิดที่บ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร สาขาเทคโนโลยีการผลิตพืชและภูมิทัศน์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตจันทบุรี
วันที่ได้รับบัตรประชาชนเป็นครั้งแรกนั้นได้เผยความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองและครอบครัวรู้สึกดีใจที่สุด วันนี้เป็นวันสำคัญที่รอคอยมาตลอดชีวิต โดยตนได้ยื่นเรื่องขอมีสัญชาติไปหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2566 ได้รับอนุมัติพิจารณาสัญชาติไทยในที่สุด
ปัจจุบัน ตนประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างผู้ช่วยนักปลูก บริษัท Mata World Cannabis Farm ที่ผ่านมาตนคิดถึงอนาคตว่าเราจำเป็นต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย เพราะเมื่อไปทำงานหากเราไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย อาจโดนสังคมรอบข้างดูถูกดูแคลน ตนจึงมุ่งมั่นตั้งใจ ขยันเล่าเรียนจนจบปริญญาตรีให้สำเร็จลุล่วง เพราะการไม่มีสัญชาติไทยเป็นปมด้อยของตนตลอดมา วันนี้จะตั้งใจทำงานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานในฟาร์มเพาะปลูก เพื่อกลับมาต่อยอดการเกษตรที่บ้านเกิดต่อไป
นอกจากนี้ นายดีชัย ยังได้กล่าวฝากให้กำลังใจถึงเยาวชนและน้องๆ ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยและยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนว่า หากน้องๆ คนไหนที่ต้องการขอสัญชาติไทย ขอให้มีความขยันอดทนและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้จบปริญญาตรี และโอกาสในการขอสัญชาติไทยจะเป็นของผู้ไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อำเภอทองผาภูมิ ได้จัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวประชาชนในกลุ่มเด็กนักเรียนอักษร G ไปแล้ว จำนวน 1,217 ราย กลุ่มนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนเพียงหลวง 3 ทั้ง 3 สาขา ซึ่งกลุ่มนี้ได้พิจารณาอนุมัติสัญชาติไทยแล้ว จำนวน 103 ราย ส่วนกลุ่มพระภิกษุสงฆ์และสามเณร จำนวน 58 รูป อำเภอทองผาภูมิ ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติเพื่อจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนต่อไป และสุดท้าย กลุ่มที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 1 กลุ่มคือ กลุ่มนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว และกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอทองผาภูมิอีกประมาณ 50 ราย