เชียงใหม่ - รองปลัดยุติธรรมนำเจ้าหน้าที่ DSI สนธิกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มหมูใหญ่ต้นน้ำแม่แตง หลังบ่อเกรอะพังถล่ม-น้ำเสียทะลักกระทบพื้นที่เกษตรชาวบ้าน ล่าสุดพบใช้พื้นที่ ส.ป.ก.สร้างบ่อบำบัดไม่ได้มาตรฐาน-ส่อรุกป่าซ้ำ
วันนี้ (1 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปศุสัตว์เชียงใหม่ ป่าไม้ ชลประทานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่อำเภอแม่แตง เทศบาลตำบลแม่แตง และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบฟาร์มหมูพื้นที่ อ.แม่แตง ที่มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ เลี้ยงหมูกว่า 3 หมื่นตัว
หลังเกิดเหตุการณ์บ่อบำบัดน้ำเสียได้พังถล่มเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้น้ำที่ปนเปื้อนด้วยสิ่งปฏิกูลในบ่อบำบัดได้ไหลหลากลงลำน้ำห้วยและยังเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอแม่แตง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบน้ำเสียจากบ่อบำบัดที่ไหลลงสู่ลำน้ำแม่แตง ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำปิงเป็นแหล่งส่งน้ำดิบเพื่อใช้ผลิตน้ำประปา น้ำอุปโภคบริโภคในตัวเมืองเชียงใหม่ พบซากสิ่งปฏิกูลบางส่วนยังคงค้างอยู่ตามลำห้วยในพื้นที่อีกด้วย
พ.ต.ท.ประวุธกล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ DSI ด้านคดีสิ่งแวดล้อมได้ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อม ชลประทาน กรมเจ้าท่า สาธารณสุข ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.มาแล้ว
เบื้องต้นพบว่าฟาร์มหมูดังกล่าวสร้างบ่อบำบัดไม่ได้มาตรฐานและยังไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน ส.ป.ก.และบุกรุกพื้นที่ป่าอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบที่มาของการครอบครองพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่รัฐนำมาแจกให้เกษตรกรรายได้น้อย นอกจากนี้ยังมีความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการขออนุญาตก่อสร้างโรงเรือนในพื้นที่ป่าสงวน เป็นต้น
ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแจ้งความเอาผิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ละหน่วยงานภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ยังให้ทางอำเภอแม่แตงเป็นเจ้าภาพในการเรียกร้องค่าเสียหายจากฟาร์มหมู เพื่อเยียวยาให้เกษตรกรและราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บ่อบำบัดพังทลายด้วย
“หลังจากนี้จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ DSI รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนออธิบดี DSI พิจารณารับเป็นคดีพิเศษอีกด้วย”
ทางด้านเกษตรกรในพื้นที่ใกล้กับฟาร์มหมูแห่งดังกล่าว ให้ข้อมูลหลังจากเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายว่า ได้ทำการเกษตรในพื้นที่ดังกล่าวมานานนับ 10 ปี ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาฟาร์มหมูปล่อยน้ำเสียเข้ามาในสวนเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำเสียไหลลงลำห้วยหลากเข้าสวนตนเองตลอด ซึ่งในปีนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
