สุรินทร์ - คืบหน้าไฟไหม้ตลาดชายแดนช่องจอม พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่หาสาเหตุเพลิงไหม้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พบร้านค้าเสียหายกว่า 290 ร้าน มูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้านบาท
สายวันนี้ (28 ต.ค.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่จุดไฟไหม้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง เพื่อเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของคืนวันที่ 27 ต.ค. 66 ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านค้าภายในตลาดการค้าชายแดนแห่งนี้อย่างรุนแรง ต้นเพลิงอยู่บริเวณซอย 9 ร้านด้านทิศเหนือของตลาด เพลิงเริ่มโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะสินค้าแต่ละร้านมีทั้งเสื้อผ้า ชุดกีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋า รองเท้า สินค้าทั่วไปและสินค้าจักสานต่างๆ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทยต่างพากันขนสินค้าออกจากร้านอย่างโกลาหล บางคนถึงกับยืนร้องไห้กอดคอกันและตัวสั่น และเป็นลมล้มฟุบหลายตลบ มีการระดมรถดับเพลิงจาก อบต.และเทศบาลหลายพื้นที่ร่วม 20 คัน เข้ามาฉีดสกัดเพลิง กว่า 1 ชม.ไฟจึงสงบ ก่อนจะฉีดควบคุมเพลิงต่ออีกหลายชั่วโมงเพื่อไม่ให้ลุกลาม
เบื้องต้นมีร้านค้าเสียหายกว่า 290 ร้านค้า รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 150 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการมีการสต๊อกสินค้าต่างๆ ไว้จำนวนมาก เตรียมไว้ขายในช่วงออกพรรษาและช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้
ขณะที่บริเวณอาคารโอทอป อบจ.สุรินทร์ ต.ด่าน อ.กาบเชิง อำเภอกาบเชิง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันจัดตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีการตั้งโต๊ะให้ชาวไทยและกัมพูชาลงทะเบียน เพื่อตรวจสอบจำนวนร้านค้าและสินค้าที่เสียหาย ก่อนจะมีการประชุมหารือถึงแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
เบื้องต้นได้มีการเปิดรับบริจาคน้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาคารโอทอป อบจ.สุรินทร์ นอกจากนี้ จนท.แพทย์ พยาบาลจาก รพ.กาบเชิง และ รพ.สต.ด่าน ก็จะมีการตั้งจุดตรวจดูแลสุขภาพจิต เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาสภาพจิตใจกับความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการอีกด้วย โดยมีชาวไทยและกัมพูชาที่ประสบภัยมารอลงทะเบียนรอรับการช่วยเหลือเยียวยาจำนวนมาก
สำหรับตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดทั้งตลาดมาแล้วเมื่อปี 2553 ร้านค้าหลายร้อยร้านค้าเสียหายเป็นตอตะโก ต้นเพลิงเกิดจากถังแก๊สลุกลามภายในร้านดับไม่ทัน และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดในซอยไม่ได้เนื่องจากมีการต่อหลังคาบังแดดเชื่อมโยงกัน ทางเข้าจึงแคบรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ รวมทั้งเป็นสินค้าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และเกิดความเสียหายกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมากกว่าในครั้งนี้ แต่กลับพบว่ามูลค่าความเสียหายในครั้งนี้มีมากกว่า เนื่องจากมีการสต๊อกสินค้าไว้จำนวนมากดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ โดยการสร้างอาคารถาวรที่มั่นคงปลอดภัย และอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้มีการให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขยับย้ายร้านไปด้านหลังทางทิศเหนือของตลาดเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ขณะที่ชาวกัมพูชาที่กำลังนั่งเย็บผ้าม่านอยู่บอกว่า ก่อนเกิดเหตุพบว่าหลอดไฟติดๆ ดับๆ ก่อนจะมีเพลิงไหม้มาจากบริเวณซอย 9 ของตลาด