สุรินทร์- เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่! ตลาดชายแดนช่องจอม สุรินทร์ เผาวอดกว่า 100 ร้าน แม่ค้าไทย-เขมรร่ำไห้ขนสินค้าหนีตายโกลาหล ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำกว่า 1 ชม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ไฟยังคุกรุ่นมีควันโขมง เผยซ้ำรอยเหตุไฟไหม้ใหญ่ปี 2553
วันนี้ ( 28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ ร้านค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อย่างรุนแรง ต้นเพลงอยู่บริเวณซอย 9 ร้านด้านทิศเหนือของตลาด เพลิงเริ่มโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากร้านค้าหลายร้อยร้านเป็นเพิงไม้มุงสังกะสี ประกอบกับสินค้าภายในร้านแต่ละร้านมีทั้งเสื้อผ้า ชุดกีฬา กระเป๋า รองเท้า สินค้าทั่วไปและสินค้าเครื่องจักสาน จึงเป็นเชื้อเพลงอย่างดี ประกอบกับลมที่พัดมาเป็นระยะๆในช่วงที่กำลังเข้าสู่หน้าหนาว ขณะที่ชาวกัมพูชาและชาวไทยต่างพากันเร่งขนสินค้าออกจากร้านที่ไฟกำลังลามเข้ามาใกล้อย่างโกลาหล บางคนถึงกับยืนร้องไห้กอดคอกันและตัวสั่น ที่ต้องหมดเนื้อประดาตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ รถดับเพลิงทั้งจาก อบต.ด่าน,เทศบาลกาบเชิง อบต.ตะเคียน และ อบต.ใกล้เคียน เข้ามาฉีดน้ำสกัดเพลิง กว่า 30 คัน ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถฉีดสกัดควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงยังคงลุกคุกรุ่นควันโขมงอยู่
ส่วนร้านค้านับร้อยร้านถูกเพลิงไหมเป็นตอตะโก ท่ามกลางชาวกัมพูชาและชาวไทยที่มาค้าขายมายืนมุงดูจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่ชัดเจน อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอให้เพลิงสงบเสียก่อน
ทั้งนี้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม สุรินทร์ เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งตลาดมาแล้วเมื่อปี 2553 ร้านค้าหลายร้อยร้านค้าเสียหายเป็นตอตะโกประมาณ 70 % ต้นเพลิงเกิดจากถังแก๊สลุกลามภายในร้านดับไม่ทัน และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดตามซอกซอยขนาดเล็กไม่ได้เนื่องจากมีการต่อหลังคาบังแดดเชื่อมโยงกัน จึงคับแคบรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้
ปัจจุบันตลาดชายแดนช่องจอมได้ทำการปรับปรุงใหม่ โดยมีการสร้างอาคารถาวรมั่นคงปลอดภัย อยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้มีการให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขยับย้ายร้านไปด้านหลังทางทิศเหนือของตลาดเป็นการชั่วคราว โดยต่อเติมเป็นเพิงไม้สังกะสีเช่นเดิม แต่ความเสียหายของจำนวนร้านที่ถูกเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังถือว่าน้อยกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ปี 2553 เนื่องจากมีการขยายพื้นที่ก่อสร้าง จำนวนร้านจึงน้อยลง และอยู่เป็นโซนเป็นระบบมากขึ้น
ขณะที่ชาวกัมพูชา ที่กำลังนั่งเย็บผ้าม่านอยู่ในตลาด บอกว่า ก่อนเกิดเหตุพบว่าหลอดไฟฟ้าส่องสว่าง ติดๆดับๆก่อนจะมีเพลิงไหม้มาจากบริเวณซอย 9 ของตลาด ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป