ชัยนาท - สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่ง หลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดใน อ.เมืองชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยาจึงต้องปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบพื้นที่เหนือเขื่อน
วันนี้ (20 ต.ค.) สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำที่สะสมในลุ่มน้ำตอนบนได้ไหลมาสมทบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ไปเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดใน อ.เมืองชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยาจึงต้องปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบพื้นที่เหนือเขื่อน แต่ยังคงระบายน้ำไม่เกินอัตรา 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยวันนี้น้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณ 2,167 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 14 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรัง ที่ไหลมารวมกันเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณ 2,275 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นจากระดับเก็บกัก 50 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ +17.00 เมตร (รทก) ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ม.4 และ ม.7 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท แล้วบางส่วน
กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำโดยเพิ่มการผันน้ำเข้าระบบชลประทานเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จาก 555 ลูกบาศก์ต่อวินาที เป็น 579 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเพิ่มระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,650 เป็น 1,696 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา เพิ่มขึ้น 16 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 13.51 เมตร (รทก)
อย่างไรก็ตาม เขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก แต่จะระบายไม่เกินอัตรา 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด