พระนครศรีอยุธยา - รองผู้ว่าฯ อยุธยาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำน้อย ในอำเภอเสนา กำชับให้การช่วยเหลือดูแลตลอดอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ชุมชน ข คลองเก่า ตำบลเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นาง อมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นอีก 1 ชุมชนที่เก่าแก่ในพื้นที่ของอำเภอเสนา มี 45 ครัวเรือน ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านมานานหลายสัปดาห์ เฉลี่ยอยู่ที่ 50-80 เซนติเมตร หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีการระบายน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่บนถนน ใช้เรือเป็นยานพาหนะเข้าออก
โดยในพื้นที่ชุมชน ข คลองเก่า ตำบลเสนา อำเภอเสนา เป็น 1 ในชุมชนเก่าแก่ของ อำเภอเสนา ซึ่งจะมีชุมชน ข คลองเก่า ชุมชน ค สนามกีฬา ชุมชน ฆ โรงฆ่าสัตว์ ซึ่งจะเป็นชุมชนริมแม่น้ำน้อย ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมแล้วรวมกว่า 147 หลังคาเรือน โดนจะมีทั้งหน่วยงานจากอำเภอเสนา ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาพบปะเยี่ยมเยียนพูดคุย ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน้อย ซึ่งจะได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่แรกๆ ถ้าเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำสูง จะทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านทำให้การเข้าออกบางบ้านต้องใช้เรือ ทั้งนี้โชคดีในพื้นที่ ข คลองเก่า หน่วยงานท้องถิ่นได้มีการทำสะพานทางเดินปูนริมแม่น้ำ ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าออกได้ แต่อย่างไรก็ตาม ให้ทางอำเภอ ท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่มาคอยลงมาดูแลพี่น้องประชาชนตลอดช่วงที่น้ำท่วมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีประกาศระบายน้ำลดลงอยู่ที่ 1,650 ลบ.ม/วินาที ซึ่งมวลน้ำที่มาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังส่งผลให้ท้ายเขื่อนอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมสูงอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองสาขา และแม่น้ำน้อยที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำมาก ล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำนอกแนวคั้นน้ำไปแล้วจำนวน 9 อำเภอ 70 ตำบล 12,302 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางซ้าย อำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราช อำเภอบางปะอิน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบน้ำฝนท่วมขัง