ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือต้อนรับชาวไทยหนีภัยสงครามในอิสราเอล 90 ชีวิตกลับแผ่นดินเกิด ณ สนามบินอู่ตะเภา โดยถือเป็นการลำเลียงคนไทยกลับบ้านเป็นเที่ยวที่ 3 ขณะแรงงานไทยกล่าวขอบคุณหน่วยงานในประเทศให้การช่วยเหลือเร็ว เผยสงครามทำหวาดกลัวมาก
เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (15 ต.ค.) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ พล ร.อ.สิทธิชัย ต่างใจ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้การต้อนรับชาวไทย จำนวน 90 คน ที่หนีจากภัยสงครามในประเทศอิสราเอลกลับบ้านเกิด แบ่งเป็นชาย 88 คน และหญิง 2 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิด จำนวน 2 คน
โดยคนไทยทั้งหมดเดินทางด้วยสายการบิน Fly Dubai เที่ยวบิน FZ1550 ออกเดินทางจากประเทศอิสราเอล เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีการเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ เพื่อโดยสารต่อโดยเที่ยวบิน FZ1837 ซึ่งออกเดินทางในเวลา 20.00 น.วันเดียวกันเพื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในเวลา 06.00 น.วันที่ 15 ต.ค.ตามเวลาประเทศไทย โดยถือเป็นเที่ยวบินอพยพคนไทยครั้งที่ 3
และมี พล ร.ต.เดือน พร้อมมณี ผู้บัญชาการ กองการบินทหารเรือ ได้เป็นผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วยนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมจัดหางาน รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดระยองให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างอบอุ่น
โดยชาวไทยทั้ง 90 คน ได้ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจร่างกายโดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่เรียบร้อย และยังได้รับประทานอาหารเช้าที่กองทัพเรือ จัดเตรียมไว้และถือเป็นอาหารเช้ามื้อแรกบนแผ่นดินเกิด ก่อนจะพากันขึ้นรถบัสเดินทางไปพักผ่อนที่โรงแรม SC park เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เพื่อรอให้ญาติมารับกลับสู่ภูมิลำเนา และมีชาวไทยบางส่วนที่มีญาติพี่น้องมารอรับที่สนามบินด้วย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลพี่น้องคนไทย 90 ชีวิต และครอบครัวที่มาเฝ้ารอให้การต้อนรับให้ได้รับความสะดวกสบาย อบอุ่น และปลอดภัยให้มากที่สุด
ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ระดมสรรพกำลัง ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ เร่งให้การช่วยเหลือนำพี่น้องคนไทยที่สมัครใจเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล ให้โดยเร็วที่สุดอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยในส่วนของกองทัพเรือ จะมีสายการบิน Fly Dubai ที่บินตรงมาจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาลงที่สนามบินอู่ตะเภาทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน
และเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินพิเศษตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงกลาโหม
ได้ประสานงานร่วมกัน จนนำไปสู่การช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้ได้รับความปลอดภัย
ขณะที่นายสุรชัย สมณคีรี อายุ 28 ปี และนายไชยะ บุญสังข์ อายุ 39 ปี อาชีพเกษตรกร ได้กล่าวขอบคุณประเทศไทยที่ได้ให้การช่วยเหลือนำกลับคืนสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย และรวดเร็วอย่างมาก เพราะระหว่างเกิดสงครามขึ้นรู้สึกตกใจหวาดกลัวอย่างมาก และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต
“สิ่งแรกที่คิดในเวลานั้น คือ อยากมีชีวิตรอดกลับบ้าน คิดถึงทุกคนคนในครอบครัว ในวันนี้ รัฐบาลไทย ได้ทำความฝันนั้นเป็นความจริง รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างสุดซึ้ง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาสนี้” คนไทยผู้รอดชีวิต กล่าว
