กาญจนบุรี - ส.ส.เมืองกาญจน์ไฟแรง ชงรัฐบาลยกเลิกที่ดินรัฐที่เป็นเสื่อมโทรมให้ประชาชนเช่า เชื่อไม่มีม็อบบุกทำเนียบ
วันนี้ (13 ต.ค.) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของรัฐ ซึ่งประเทศไทยมีที่ดินของรัฐอยู่ประมาณ 10 ประเภทที่ประกาศครอบครองพื้นที่ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ของหน่วยงานรัฐนั้นๆ บางหน่วยงานอ้างเพื่อการอนุรักษ์บ้าง เพื่อการใช้ประโยชน์ต่างๆ บ้าง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ ซึ่งแต่ละห้วงเวลาขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นด้วย
ที่ผ่านมา ภาครัฐได้ประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือประกาศเป็นเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.ที่นิคมสหกรณ์ ที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่จัดสรรของการไฟฟ้า หรือที่ดินของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งที่ดินราชพัสดุ ที่ดินที่ประกาศแต่ละประเภทนั้นมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้คือเกิดจากการบริหารจัดการด้วยกันทั้งสิ้น ผมเชื่อว่าการประกาศของหน่วยงานรัฐในแต่ละห้วงเวลานั้นวัตถุประสงค์ของการประกาศเพื่อที่จะรักษาพื้นที่ รักษาพื้นที่แหล่งพันธุ์พืช พันธุ์ไม้หรือแหล่งต้นน้ำลำธาร หรือเอาไว้คุ้มครองระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืน เพื่อให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต
ในวันนี้ ตามนโยบายของป่าไม้แห่งชาติ ไม่ว่าแต่ละยุคแต่ละสมัยจะต้องมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 25% ป่าอนุรักษ์คือพื้นที่อุทยานแห่งชาติบวกกับพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ซึ่งพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 25% 3 แห่งรวมกันมีประมาณ 80 ล้านไร่ แต่พื้นที่ 3 ประเภทนี้ได้ประกาศทับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง ซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า มีมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2481 หรือประมาณ 85 ปีมาแล้ว สมัยนั้นตัวผมและอีกหลายคนยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป
ปัจจุบัน สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะในอดีตนั้นประชากรของประเทศไทยมีไม่ถึง 10 ล้านคน แต่ทุกวันนี้ประเทศไทยของเรามีประชากรประมาณ 70 ล้านคนแล้ว ซึ่งป่าสงวนมาประกาศอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี 2507 เป็นต้นมา ซึ่งป่าสงวนดังกล่าวเป็นต้นเหตุของการบุกรุก เป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนที่ถือครองที่ดิน เพราะป่าสงวนได้เปิดโอกาสให้มีการเข้าไปใช้ประโยชน์ และที่สำคัญป่าสงวนในประเทศไทยมีอยู่มากถึง 1,221 ป่า เพราะฉะนั้นปัญหาต่างๆ จึงเกิดขึ้นมากมาย และเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2536 ครม.ได้มีมติมอบพื้นที่ป่าสงวนให้สำนักงานปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.เพื่อนำไปปฏิรูปที่ดินให้ประชาชนหรือเกษตรกรที่มีวัตถุประสงค์ทำการเกษตร แต่ในทุกวันนี้ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการในเขตปฏิรูปที่ดินของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่กล้าตัดสินใจจัดการกับกลุ่มนายทุนที่เข้าไปครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.จึงทำให้ที่ดิน ส.ป.ก.เกิดมีปัญหามาถึงทุกวันนี้
เมื่อมีปัญหาประชาชนที่เป็นเกษตรกรไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินของรัฐตามจำนวนพื้นที่ที่รัฐต้องจัดให้ จึงเกิดการเข้าไปบุกรุกป่าใหม่ ปัจจุบันมีประชาชนเข้าไปบุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์โดยเฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีมากถึง 4 ล้านไร่ หรือประมาณ 5% ของพื้นที่ จำนวน 80 ล้านไร่
ขอยกตัวอย่างพื้นที่ที่เห็นได้ชัดเจที่สุดคือที่ดินราชพัสดุ ซึ่งประเทศไทยของเรามีที่ดินราชพัสดุที่กรมธนารักษ์ดูแลอยู่ประมาณ 12 ล้านไร่เศษ เฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี ที่ผมเป็น ส.ส.อยู่ มีที่ดินราชพัสดุอยู่มากถึง 20% หรือประมาณ 2 ล้านไร่เศษ ที่ 2 ล้านไร่เศษนี้ชาวบ้านเรียกกันว่าที่ทหาร เดิมทีนั้นพื้นที่แห่งนี้ตั้งใจประกาศเอาไว้เป็นพื้นที่สงวนหวงห้ามไม้ไผ่ เอาไว้เป็นต้นทุนในการผลิตเยื่อกระดาษป้อนให้โรงงานที่ผลิตกระดาษในจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อปี 2481 ยุคพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่ปัจจุบันนี้โรงงานกระดาษไทยในจังหวัดกาญจนบุรีได้เลิกผลิตเยื่อกระดาษไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 ปี แต่ประกาศพระราชกฤษฎีกาพื้นที่สงวนหวงห้ามของที่ราชพัสดุยังไม่ได้ยกเลิก แต่มีหน่วยงานราชการคือหน่วยงานทหารไปขอใช้ประโยชน์ จึงเกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุกับหน่วยงานราชการทหารที่ขอใช้ หรือแม้กระทั่งศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี และอาคารสถานที่ราชการอีกหลายแห่งอยู่ในที่ดินราชพัสดุ เพราะฉะนั้นปัญหาที่ดินของรัฐที่มีอยู่ประมาณ 10 ประเภท มีปัญหาด้วยกันทั้งหมด
ดังนั้นจึงขอเสนอไปถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาลว่า พื้นที่ใดที่ไม่ใช้ประโยชน์หรือไม่สามารถนำมาฟื้นฟูให้กลับมาเป็นสภาพดังที่หน่วยงานรัฐนั้นตั้งใจ หรือเป็นพื้นที่ที่พ้นวัตถุประสงค์ของหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้ดูแลไปแล้ว ขอให้เพิกถอนพื้นที่ดังกล่าวให้พ้นจากพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน พ.ศ.2481 ได้หรือไม่ แต่หากเพิกถอนไม่ได้ ขอให้ประชาชนที่ครอบครองที่ดินอยู่เช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้หรือไม่ หากได้ประชาชนจะได้อยู่อย่างมั่นคงและสบายใจ เพราะไม่ต้องระแวงอีกต่อไปว่าวันดีคืนดีจะไม่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมดำเนินคดี หากหน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลทำได้ตามที่ผมเสนอ เชื่อได้เลยว่าประชาชนจะอยู่อย่างมั่นคงและจะไม่มีม็อบเดินขบวนมาเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยที่ทำเนียบรัฐบาลอีกต่อไป