เชียงใหม่ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เผยส่งฟ้องศาลแล้วแจ้งเบื้องต้น 2 ข้อหา อดีตเจ้าอาวาสวัดแม่ริมผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกาย 7 สามเณร เร่งสอบเพิ่มเรื่องเปิดรับบริจาคและค้ามนุษย์ ขณะที่เหยื่อทั้งหมดอยู่ในความดูแลของมูลนิธิคุ้มครองเด็กและสมัครใจเตรียมสึก พร้อมเข้าตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากทราบผลยืนยันเตรียมแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา
ความคืบหน้ากรณีเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศสามเณรรวม 7 รูป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุและเข้าให้การช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และตรวจยึดของกลาง นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมายที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่นั้น วันนี้ (11 ต.ค. 66) พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานนำตัวอดีตพระปลัดธีรเมศวร์ ศิริ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย, การกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือทำให้เข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น
ส่วนสามเณรทั้ง 7 รูปตอนนี้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง และมูลนิธิคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อช่วยเหลือเรื่องของคดี ซึ่งสามเณรทั้ง 7 รูปสมัครใจที่จะลาสิกขาบท หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อคัดกรองว่าในใครบ้างที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายหลังจากนั้นก็จะส่งตัวไปตรวจร่างกายหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หากพบว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศจริงก็จะเริ่มข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ขณะเดียวกันจากข้อมูลที่พบว่ามีการนำเด็กมาบวชเป็นสามเณรโดยเฉพาะเด็กที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านก็จะมีการสืบสวนว่านำพาเด็กเข้ามาได้อย่างไรมีเส้นทางอย่างไร จนถึงเรื่องของการเปิดรับบริจาคเงินขอความช่วยเหลือโดยนำเรื่องสามเณรมาบังหน้า ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเรื่องของการค้ามนุษย์ หากพบมีความเชื่อมโยงก็จะดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์อีกข้อหาหนึ่งด้วย ทั้งนี้ไม่หนักใจเนื่องจากเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และมีพยานหลักฐานที่รัดกุมก่อนจะทำสำนวนส่งฟ้อง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีคัดค้านการประกันตัว เพราะอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลังผลของการตรวจร่างกาย
