อุทัยธานี - ญาติพี่น้อง 20 แรงงานชาวอุทัยฯ ในอิสราเอลอยู่ทางบ้านยังใจชื้น..ล่าสุดยังไร้รายงานเจ็บ-ตาย สังเวยสงครามยิว-ฮามาส หรืออยู่พื้นที่เสี่ยง หลายคนโทร.บอกลูกเมียยังทำงานเป็นปกติทุกวัน
วันนี้ (11 ต.ค. 66) นายสริห์ หอมหวล พัฒนาการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยนางสาววัชรี สินธุสิริ พัฒนาการอำเภอ ร่วมเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 60/1 หมู่ที่ 7 บ้านหนองจิกยาว ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน พบปะพูดคุยกับนางกนกพร โพธิ์แก้ว ครอบครัวของนายณัฐพงศ์ จันทร์ปลอด อายุ 31 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เพื่อให้กำลังใจและสอบถามข้อมูลความคืบหน้าสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ที่แรงงานไทยแต่ละรายทำงานอยู่
นางกนกพรเปิดเผยว่า นายณัฐพงศ์เป็นลูกชายคนโต เดินทางไปทำงานปลูกและเก็บมะเขือเทศอยู่ที่ Azrikam 36 Hasson zipcode Israel ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2565 มีกำหนดสัญญาทำงานอยู่ที่นั่น 5 ปี ตอนนี้ก็ได้ 1 ปี 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สู้รบ ตนเองก็พยายามติดต่อหาลูกชายตลอดทุกวันเพราะอยากรู้ว่าเขายังสบายดีอยู่ไหม
“ตอนนี้ก็จะโทร.หากันทุกวัน ลูกก็บอกว่าที่ทำงานยังปลอดภัยดี อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างสถานทูตประมาณ 30 กิโลเมตร ทุกคนที่นั่นยังคงไปทำงานกันทุกวันตามปกติ แต่แม้จะได้พูดคุยกันทุกวัน ใจเราก็ยังรู้สึกห่วงอยู่ดี ซึ่งลูกชายก็บอกว่าตอนนี้ได้ลงชื่อขอกลับมาไทยแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้บอกข้อมูลชัดเจนว่าจะกลับไหม แล้วถ้ากลับจะได้กลับเมื่อไหร่แน่ ตอนนี้ก็ทำได้แค่ส่งกำลังใจไปให้ลูกและคนไทยทุกคนที่อยู่ที่นั่น ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ให้ทุกคนปลอดภัย”
ด้านนางสังวาลย์ โพธิ์แก้ว อายุ 67 ปี ผู้เป็นยาย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังแบบน้ำตาคลอเบ้าว่า เป็นห่วงหลานมาก ก็ติดตามดูข่าวโทรทัศน์อยู่ตลอด และคอยให้แม่เขาโทรศัพท์ไปหาอยู่ทุกวัน พยายามวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน แต่หลานก็จะไม่เล่าเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นที่นั่นให้ฟังเลย เพราะรู้ว่าเราจะเป็นห่วงมากเข้าไปอีก เพราะตอนนี้พอเห็นข่าวในทีวีออกว่าคนนั้นโดนยิง คนนี้โดนยิง ก็รู้สึกกลัวมากๆ
“อยู่ตรงนี้เราก็บนบานศาลกล่าวอย่างเดียวเลย บนหลวงพ่อดอกบัวขาว ขอให้เขาปลอดภัย ก็จะให้หลานไปบวชให้ ถ้าปกติยายก็จะคุยกับหลานวันเสาร์ ช่วงประมาณเที่ยงๆ เพราะเขาจะพักงานวันเสาร์ ถ้าวันธรรมดาแบบนี้ก็จะให้แม่เขาคุยกันมากกว่า เพราะเราใจไม่ดี แม้ตอนนี้เรายังคุยกันทุกวันได้แต่ใจจริงอยากให้กลับ อยากให้ทางหน่วยงานรัฐของไทยเราช่วยเขาช่วยให้ได้กลับไวๆ ตอนนี้ยายเป็นห่วงมากเพราะเลี้ยงหลานชายคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ”
ขณะนี้นายสริห์ หอมหวล พัฒนาการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ปลัดกระทรวง-อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ทางกรมการพัฒนาชุมชน ติดตามเยี่ยมเยียนให้กําลังใจครอบครัวผู้ที่ประสบภัยสงครามที่อิสราเอล ว่าตอนนี้ สถานการณ์ที่ไปทํางานเป็นอย่างไรบ้าง และเก็บข้อมูลรายละเอียดว่ามีรายใดที่มีความต้องการที่จะกลับประเทศไทยหรือไม่ ในกรณีที่เขากลับมาที่ประเทศไทย ทางสํานักงานพัฒนาชุมชนอาจจะต้องมีข้อมูลในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาอาชีพต่อไป เพื่อจะได้ให้มีอาชีพที่ต่อเนื่อง ไปดูแลในเรื่องของคุณภาพชีวิตของครอบครัว
ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุทัยธานีนั้น มีคนที่เดินทางไปทํางานอิสราเอลอยู่จำนวน 20 ราย แต่เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลว่ามีคนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ ซึ่งทางพัฒนาชุมชนแต่ละอําเภอกำลังเร่งเข้าไปเยี่ยมเยียนให้กําลังใจ-เก็บข้อมูลในเรื่องของปัญหาความเดือดร้อนหรือความเครียดต่างๆ เพื่อประสานงานกับทางแรงงาน จัดหางานของจังหวัดอุทัยธานี โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ก็ได้มอบหมายให้ทาง จัดหางานจังหวัด แรงงานจังหวัดได้ทํางาน ทางกระทรวงมหาดไทยก็ต้องทํางานควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน
ส่วนการลงทะเบียนที่จะกลับไทย จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์อะไรหรือไม่นั้น ตอนนี้เรายังไม่ทราบข้อมูลชัดเจน อาจจะต้องสอบถามทางกระทรวงแรงงานหรือจัดหางานอีกครั้ง