กาฬสินธุ์ - แรงงานไทยในอิสราเอลเปิดภาพเพื่อนแรงงานไทยที่ได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอลอย่างปลอดภัย และเผยแพร่คลิปเหตุการณ์สู้รบผ่านเฟซบุ๊ก เผย “งานก็ต้องทำแม้ระเบิดก็จะลงหัว” พร้อมเปิดคลิปไลฟ์สดจากหลุมหลบภัย วอนรัฐบาลช่วยเหลือกลับบ้านด่วนเพราะเหตุการณ์รุนแรง น่ากลัวมาก
จากกรณีเหตุการณ์สู้รบในประเทศอิสราเอลตอนใต้ ซึ่งมีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีแรงงานไทยชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งคาดว่าเสียชีวิต 1 ราย คือนายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี ชาวบ้านหนองแวงใต้ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 ต.ค.) นางจิราภรณ์ แซ่จัน นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนจัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการเปิดเผยตัวเลขแรงงานไทยชาวกาฬสินธุ์ที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล ซึ่งไปถูกต้องตามกฎหมายกระทรวงแรงงาน จำนวน 230 ราย เพศชาย 226 คน เพศหญิง 4 คน โดยเป็นแรงงานจาก อ.เมืองกาฬสินธุ์ 22 คน ยางตลาด 30 คน
หนองกุงศรี 22 คน คำม่วง 19 คน เขาวง 19 คน นาคู 17 คน กุฉินารายณ์ 14 คน ท่าคันโท 14 คน สหัสขันธ์ 12 คน สมเด็จ 12 คน ห้วยเม็ก 10 คน ฆ้องชัย 9 คน กมลาไสย 8 คน ห้วยผึ้ง 7 คน นามน 6 คน สามชัย 4 คน ดอนจาน 3 คน และร่องคำ 2 คน
นางจิราภรณ์กล่าวอีกว่า ในส่วนแนวทางช่วยเหลือแรงงานไทย ทางจังหวัดและส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจะได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและแรงงานไทย ที่สำนักงานแรงงาน จ.กาฬสินธุ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทย จากการประสานกับ สป.หรือสำนักปลัดกระทรวงแรงงาน จะมีแรงงานไทยเดินทางจากประเทศอิสราเอลรอบแรกวันที่ 12 ต.ค. 66 จำนวน 12 คน ไม่มีแรงงานชาวกาฬสินธุ์ และรอบที่ 2 วันที่ 15 ต.ค. 66 จำนวน 140 ราย ยังไม่ทราบว่าจะมีแรงงานชาวกาฬสินธุ์หรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง
ด้านนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล หรือบริเวณฉนวนกาซา ซึ่งมีแรงงานไทยไปทำงานเป็นจำนวนมาก ด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของแรงงานไทย ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย และนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอทำการตรวจสอบรายชื่อบุคคลหรือแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สอดคล้อง ตรงกันกับกระทรวงแรงงาน และนำไปสู่การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วต่อไป
สำหรับอำเภอยางตลาด พบว่ามีแรงงานเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลมากที่สุดใน จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 30 คน ขณะนี้สามารถติดต่อกับครอบครัวได้แล้วและยืนยันอยู่ในสถานที่ปลอดภัยจำนวน 10 คน
จากการสอบถามทราบว่ามีความประสงค์จะทำงานต่อ เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไกลพอสมควร หลายคนอยู่โซนเหนือของประเทศ จึงขอทำงานต่อ ส่วนอีก 20 คนยังไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญใต้ อ.สามชัย ในฐานะเครือข่ายยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วน อ.สามชัย มีแรงงานไทยไปทำงานในประเทศอิสราเอล 4 คน ติดต่อได้แล้วขณะนี้ 1 คนคือนายสุดใจ คงบรรจบ บ้านเลขที่ 60 หมู่ 2 ต.สำราญ ไปทำงานเลี้ยงสัตว์ที่เมืองเคฟา อิสเอลฟ์ ไม่ประสงค์เดินทางกลับ เพราะเพิ่งทำงานได้ 5 เดือน
ส่วนอีก 3 คนยังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้นายสุดใจระบุว่า เพื่อนแรงงานไทยหลายคนที่อยู่ในพื้นที่สู้รบ ได้รับการช่วยเหลือและคุ้มครองจากทหารอิสราเอล ขณะนี้พำนักในที่ปลอดภัย รอเดินทางประเทศไทยต่อไป
นายกอบโชคชีพกล่าวอีกว่า นายสุดใจแรงงานไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับดังกล่าว ระบุว่า อยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 15 กิโลเมตร จึงมั่นใจว่าจะไม่ได้รับอันตรายจากการสู้รบ แต่ทุกครั้งที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นวิถียิงระเบิดของกลุ่มฮามาสก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ว่า “งานก็ต้องทำ ระเบิดก็จะลงหัว” มีโอกาสก็จะติดต่อเพื่อนแรงงานไทยในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วง และไลฟ์สดกับเพื่อนแรงงานไทยที่อยู่ในหลุมหลบภัย
โดยเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ส่งตัวกลับประเทศในเร็ววันด้วย เพราะเหตุการณ์รุนแรงและน่ากลัวมาก
