เชียงใหม่ - โซเชียลด่ายับแก๊งจักรยานยนต์วิบากลักลอบซิ่งขึ้นไปเที่ยวบนดอยค้ำฟ้า ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผาแดง ฝ่าฝืนประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยว แถมตั้งแคมป์ตัดไม้สนก่อกองไฟทำกับข้าวและซดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมโพสต์คลิปอวด ขณะที่หัวหน้าอุทยานฯ ตรวจสอบแล้ว จ่อเรียกตัวมาทำการเปรียบเทียบปรับ หากขัดขืนเตรียมเอาผิดเพิ่ม
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปวิดีโอของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากที่พากันขี่ขึ้นไปเที่ยวบนดอยค้ำฟ้า พื้นที่ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติผาแดง โดยตามคลิปวิดีโอพบว่านอกจากการขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากขึ้นไปบนดอยค้ำฟ้า ทั้งที่เป็นช่วงที่ทางอุทยานแห่งชาติผาแดงประกาศปิดพื้นที่แล้วนั้น
ขณะเดียวกันยังมีการสับถากไม้สนที่ขึ้นอยู่ในป่านำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงจุดก่อไฟเพื่อประกอบอาหารและมีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปดื่มกินด้วย ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวมีการแชร์ต่อไปจำนวนมากพร้อมมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นตำหนิการกระทำดังกล่าวอย่างหนัก ปรากฏว่าทางผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ทำการลบโพสต์ออกไปแล้ว
จากการสอบถามนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์วิบากขึ้นไปบริเวณดอยค้ำฟ้าจริง ซึ่งกลุ่มผู้ขี่รถจักรยานยนต์วิบากดังกล่าวได้ลักลอบขับขี่ขึ้นดอยค้ำฟ้า โดยใช้ถนนป่าไม้ลำลอง จากบริเวณบ้านแกน้อย หมู่ 2 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมการสับถากไม้สนเขาเพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการก่อกองไฟ และได้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในอุทยานแห่งชาติฯ อีกด้วย
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติผาแดงได้มีการออกประกาศ ฉบับวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566 เรื่อง ปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณดอยค้ำฟ้า ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง เนื่องจากเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวดอยค้ำฟ้ามีความชำรุดเสียหาย และเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ใช้เส้นทางสัญจรและนักท่องเที่ยว
จากนี้ทางอุทยานแห่งชาติผาแดงจะได้เรียกบุคคลที่ปรากฏในภาพทั้งหมด ที่ได้ลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากเข้าไปในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวดอยค้ำฟ้า เขตอุทยานแห่งชาติผาแดงมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และหากบุคคลดังกล่าวไม่มาตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่เรียก อาจมีความผิดเพิ่มตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
