พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจทางหลวงอยุธยา จับกระบะขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองอัดมา 9 คนแน่นรถ พบมีการจัดพร็อพของท้ายรถหวังอำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ได้ที่ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 27 ถนนสายเอเซีย ทล.32 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
ล่าสุด วันนี้ (10 ต.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้สำรวจเส้นทางถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ได้พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีเทา ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ขง 4434 พิษณุโลก โดยมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติผิดสังเกต เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดพยายามขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้นำสมอบกมาปิดเส้นทางเดินรถตามยุทธวิธี
จนมาถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 27 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้หยุดรถแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ เบื้องต้นมี นายพงษ์เพชร แซ่ย่าง อายุ 42 ปี ชาว ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก เป็นคนขับ ภายในรถยังพบแรงงานสัญชาติพม่า นั่งอัดมาที่เบาะข้างคนขับ 2 คน เบาะหลัง 7 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 7 คน รวมทั้งหมด 9 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงเชิญตัวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย พบว่า แรงงานที่นั่งอัดแน่นมาในรถเป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
นางสุ อายุ 40 ปี สัญชาติพม่า พอพูดไทยได้คนเดียว กล่าวว่า.คนอื่นเพิ่งมาครั้งแรก ส่วนตนมาเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งครั้ง 1 และ 2 เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย และกลับไปเมื่อช่วงโควิด มาวันนี้จึงอยากกลับมาในประเทศไทยอีกครั้ง จึงมาแบบผิดกฎหมาย โดยเสียค่าหัวคนละ 12,000 บาท ให้นายหน้าชาวพม่าที่ประเทศ และจะมีการติดต่อกับผู้นำพาเข้ามาโดยบอกว่ามาทางเรือ ผ่านมาทางเมียวดี ไปนอนในป่า 1 คืน ก่อนวันนี้รถคันดังกล่าวจะมารับ
นายพงษ์เพชร คนขับให้การยอมรับสารภาพ พร้อมกล่าวว่า วันนี้ (10 ต.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น. ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่ป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 9 คน เพื่อไปส่งพื้นที่ชั้นในแต่ยังไม่ทราบปลายทางโดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท/คน แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน บอกว่าทำเป็นครั้งแรก เพราะตนมีอาชีพเกษตรกร มีหนี้รถยนต์กระบะ เพิ่งออกมาได้ 2-3 เดือน จึงรับจ้างขับขนแรงงานต่างด้าวเพื่อต้องการเงินมาใช้จ่าย แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงแจ้งข้อกล่าวหาคนขับฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และแรงงานพม่า ทั้ง 9 คน ฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำน้ำดื่มพร้อมข้าวกล่องมาเลี้ยงแรงงานต่างด้าว หลังสอบถามยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน และตรวจสอบหลังกระบะรถ ซึ่งมีจักรยาน เตาแก๊ส พัดลม กล่องพลาสติกใส่ของ โดยตอนแรกคนขับอ้างว่าเป็นของแรงงาน พอตรวจสอบแล้วคนขับบอกว่านำจัดไว้ให้เหมือนชาวบ้านทั่วไปเดินทางกลับต่างจังหวัด เพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
