เพชรบูรณ์ - คืบหน้า..แม่น้ำป่าสักล้นฝั่งทะลักท่วมชุมชน-ย่านเศรษฐกิจ เมืองหล่มสักจมบาดาล ล่าสุดยังไม่คลี่คลาย โดนน้ำเหนือหนุนไม่พอ อ่างเก็บน้ำตอนเหนือเต็มความจุ ต้องระบายลงสมทบซ้ำ
วันนี้ (10 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำป่าสักล้นฝั่งท่วมพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย-ย่านเศรษฐกิจ เมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จมบาดาลตั้งแต่เมื่อวาน (9 ต.ค.) เป็นต้นมา ว่า ขณะนี้น้ำยังคงทรงตัว
ล่าสุด นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายชัชวาล เบญจศิริวงศ์ รองผู้ว่าฯ ได้ลงพื้นที่ประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือพร้อมทั้งตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เปิดเผยว่าขณะนี้มวลน้ำที่ทะลักท่วมมีแนวโน้มที่จะลดลง แต่ค่อนข้างช้าเนื่องจากมีน้ำเหนือเติมมาอย่างต่อเนื่อง รวมอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งที่อยู่ตอนบนเต็มความจุและได้มีการระบายลงมาพื้นที่ด้านล่าง แต่คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกประมาณ 3-4 วันสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมทั้งได้มีภาคเอกชนมาทำโรงครัวเพื่อแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกพื้นที่
ขณะเดียวกัน จังหวัดฯ ยังได้แจ้งเตือนไปยังพื้นที่ตอนใต้ให้เตรียมรับมวลน้ำที่กำลังจะไหลลงไป โดยเฉพาะในพื้นที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดงได้ล้นปากแตรแล้ว ขณะนี้น้ำได้ไหลลงสู่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ จึงอาจจะทำให้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อน
นายสุบิน บุญจันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลตาลเดี่ยว เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลตาลเดี่ยวได้รับผลกระทบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ระดับน้ำยังคงทรงตัวมากว่า 10 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากมีน้ำจากอ่างน้ำก้อและอ่างห้วยขอนแก่นระบายมาสมทบ ทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้นเกินคาดหมาย คันกั้นน้ำไม่สามารถรองรับได้
“ปีนี้น้ำมามากเกินคาด แต่ก็เชื่อว่าระดับน้ำจะยังคงทรงตัวอยู่อีกประมาณ 3 วัน จากนั้นก็จะค่อยๆ ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ”
นางสาวสุภาพันธุ์ ทองพยงค์ ศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก มีน้ำป่าและน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลท่วมในพื้นที่อำเภอหล่มเก่าและอำเภอหล่มสักในครั้งนี้ ส่งผลให้โรงเรียนได้รับผลกระทบทั้งหมด 9 แห่ง เป็นโรงเรียนในสังกัดเทศบาล 3 แห่ง อีก 6 แห่งเป็นโรงเรียนในสังกัด สพฐ.
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนก็ได้มีการแจ้งเตือนไปทุกโรงเรียนแล้วว่าอาจจะเกิดเหตุน้ำท่วม ขอให้โรงเรียนขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง แต่ที่ไม่สามารถขนขึ้นได้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้นักเรียน ถ้าหากน้ำลดลงก็จะสามารถทำความสะอาดได้ และโชคดีที่ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียนทำให้นักเรียนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด