ลพบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี สั่งการบูรณาการทุกหน่วยงานปกคองส่วนท้องถิ่นเร่งกำจัดผักตบชวา เตรียมพร้อมรอรับน้ำเหนือที่กำลังไหลลงสู่ภาคกลาง
วันนี้ (4 ต.ค.) นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้สั่งการบูรณาการทุกหน่วยงานภาครัฐ ที่ประกอบด้วย สำนักงานชลประทานที่ 10 กรมเจ้าท่า อบจ.ลพบุรี และองกรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เร่งกำจัดผักตบชวา เตรียมพร้อมรอรับน้ำเหนือที่กำลังไหลลงสู่ภาคกลาง โดยทำการจัดเก็บผักตบชวาที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นในแม่น้ำลพบุรี ตั้งแต่ประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้น เขต อบต.โพธิ์เก้า ขึ้นไปในเขต อบต.พรหมมาสตร์ จนไปถึงวัดอัมพวัน เขต อบต.บางขันหมาก อ.เมืองลพบุรี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
โดยหน่วยงานต่างๆ ได้ระดมเครื่องจักรมาดำเนินการในจุดนี้ ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี และศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี เขต 16 ชัยนาท สนับสนุนรถแบ็กโฮบูมยาว 1 คัน รถเทรลเลอร์ 1 คัน สำนักชลประทานที่ 10 สนับสนุนรถแบ็กโฮ 2 คัน เรือดันผักตบชวา 3 คัน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลพบุรี สนับสนุนเรือดันผักตบชวา 1 คัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี สนับสนุนรถแบ็กโฮ 1 คัน รถบรรทุก 3 คัน และองค์การบริหารส่วนตำบลพรหมมาสตร์ สนับสนุนรถบรรทุก 1 คัน เข้าดำเนินจัดเก็บผักตบชวาบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเปิดทางน้ำไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อไหลของน้ำ และเพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงมาภาคกลางอีกด้วย โดยในวันนี้เป็นการดำเนินการจัดเก็บผักตบชวาเป็นวันแรก ซึ่งแม่น้ำลพบุรี เป็นแม่สาขาที่รับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต จ.สิงห์บุรี และไปรวมกับแม่น้ำป่าสักที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน มวลน้ำหลากจากตอนบนแม่น้ำเจ้าพระยา จะส่งผลให้น้ำท่าบริเวณด้านท้ายน้ำมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น และมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,000-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณ จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.00-1.50 เมตร ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้เน้นย้ำให้บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการบริเวณริมคลองชัยนาท-ป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงขอให้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด