xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.กาญจน์เสนอปัดฝุ่นโครงการฟลัดเวย์ แก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ส.ส.ศักดิ์ดา หวัง พท.ปัดฝุ่นโครงการฟลัดเวย์ ยุคนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พร้อมเสนอโครงการปลูกหญ้าแฝกยึดหน้าดิน หนึ่งใน 3 โครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 4 กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมนั้นมันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนสิงหาคม กันยายน และเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อถึงปลายเดือนธันวาคม หรือต้นเดือนมกราคมน้ำจะท่วมในพื้นที่ทางภาคใต้ ซึ่งการที่น้ำท่วมในพื้นที่เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำซากเป็นประจำทุกปี ดังนั้น จึงทำให้ประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการเยียวยาดูแลรักษาเกี่ยวกับน้ำท่วมให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งถ้าเราไม่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ต้นเหตุ จะไม่มีทางเลยที่เราจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ได้


ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นการแก้ไขปัญหากันที่ปลายเหตุ ไม่ใช่แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ จากการที่ได้ดูข้อมูลย้อนหลังไปในช่วงปี 2554 เกิดปรากฏการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร เชื่อว่าประชาชนทุกคนคงจำได้เพราะในปีนั้นเกิดมีฝนตกลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถที่จะรองรับมวลน้ำที่ไหลลงมาจากทางภาคเหนือได้ สาเหตุเพราะน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาในพื้นที่ที่เป็นเขาหัวโล้นที่ไม่มีต้นไม้ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเราจะมีเขื่อนกี่เขื่อน มีอ่างเก็บน้ำกี่แห่งก็ตาม ถ้ามันเต็มแล้วน้ำจะไปไหน ซึ่งสุดท้ายต้องระบายน้ำลงสู่แม่น้ำ 4 สายคือ ปิง วัง ยม น่าน ลงมาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ซึ่งต้นน้ำเจ้าพระยาอยู่ที่อำเภอปากน้ำโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถที่จะรองรับน้ำที่ไหลเข้าได้วินาทีละไม่เกิน 3,000 ลบ.ม. แต่ในปี 2554 ปรากฏว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำไหลเข้ามาถึงวินาทีละ 5,000 ลบ.ม.ซึ่งเกินมากว่า 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที


นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า รัฐบาลในช่วงนั้นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายที่จะสร้างโครงการฟลัดเวย์ ซึ่ง 2 ข้างทางของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เราเรียกว่าฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาข้างละ 1,000 ลบ.ม.เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนน้ำที่เข้าท่วมจะเป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เป็นที่น่าเสียดายเนื่องจากโครงการนี้ไม่เกิดขึ้นเพราะเกิดการปฏิวัติเสียก่อน

โครงการฟลัดเวย์ไม่ใช่เป็นโครงการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทั้ง 2 ฟากฝั่งของโครงการยังมีถนนที่ใช้เดินทางจากภาคตะวันตกไปภาคเหนือ และจากภาคตะวันออกไปภาคเหนืออีกด้วย โดยโครงการพรรคเพื่อไทยได้เสนอเป็นนโยบายเอาไว้ในข้อ 8 วรรคสอง ตนเองมั่นใจว่าโครงการนี้จะสำเร็จได้ในรัฐบาลยุคนี้เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของคนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เป็นอย่างดี


สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นสาเหตุเป็นเพราะป่าไม้ถูกตัดโค่นทำลายจนกลายเป็นภูเขาหัวโล้นที่ทุกคนต่างทราบกันดีอยู่แล้ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของน้ำท่วมให้ได้ทั้งในระยะยาวและยั่งยืน โดยไม่ต้องมาแก้ไขปัญหาระยะสั้นในทุกปีเหมือนที่ผ่านมา จึงขอเสนอไปถึงรัฐบาล ได้เร่งดำเนินการใน 3 โครงการสำคัญ โครงการแรกเลยคือให้ดำเนินการสร้างฝายชะลอน้ำ เพราะเวลาฝนตกจะทำให้พื้นที่ที่ไม่มีต้นไม้หรือไมมีสิ่งกีดขวาง จะทำให้น้ำไหลลงมาจากภูเขาหัวโล้นและนำเอาตะกอนหน้าดินไหลลงมาอย่างรวดเร็ว ถ้าน้ำพัดพาตะกอนหน้าดินลงมาทุกปีจะทำให้ดินนั้นเสื่อมคุณภาพไปด้วย

เมื่อถึงเวลาประชาชนจะต้องปลูกพืชหรือทำการเกษตรจะทำให้ได้ผลผลิตไม่ดีไปด้วย และจะทำให้ประชาชนหรือเกษตรกรต้องเสียงบประมาณในการนำไปปรับปรุงดินเป็นจำนวนมหาศาลโดยใช่เหตุ แต่ถ้าเราสร้างฝายชะลอน้ำจะทำให้น้ำไหลได้ช้าลง เมื่อน้ำไหลได้ช้าลงน้ำจะซึมลงใต้ดินในชั้นน้ำบาดาล ประชาชนจะได้มีโอกาสนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ ดังนั้นจึงเสนอไปถึงรัฐบาลให้สร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ต้นน้ำให้มากที่สุดเพื่อป้องกันให้น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำหรือที่ราบให้ช้าที่สุด


โครงการที่สอง คือโครงการปลูกหญ้าแฝก เพราะหญ้าแฝกนั้นจะมีรากฝังลงลึกไปใต้พื้นดินถึง 2-3 เมตร เมื่อรากลงลึกจะยึดหน้าดินเอาไว้ เมื่อน้ำไหลลงสู่ที่ต่ำการพังทลายของหน้าดินจะน้อยลง และสิ่งที่จะตามมาคือน้ำจะไหลซึมลงไปตามรากของหญ้าแฝกได้เป็นอย่างดี

และโครงการสุดท้ายที่ขอเสนอไปถึงรัฐบาลคือขอให้เร่งฟื้นฟูสภาพป่าในพื้นที่เขาหัวโล้น ถ้าเราฟื้นฟูสภาพป่าหรือพื้นที่ใดก็ตามที่เป็นพื้นที่เขาหัวโล้น หากสำเร็จจะทำให้น้ำไหลช้าลง และผืนป่าจะช่วยในการกักเก็บน้ำเอาไว้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบได้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งผืนป่านั้นถือว่ามีคุณค่าสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้จำนวนมหาศาล


จากข้อมูลของคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของประเทศไทยสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 4 หมื่นล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 4 เท่าของเขื่อนภูมิพล หากเราสามารถช่วยกันฟื้นฟูสภาพป่าบนเขาหัวโล้นสำเร็จจะเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ในระยะยาวและยั่งยืนอย่างแน่นอน นายศักดิ์ดา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น