ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สุดสลด! ตร.นำตัวผู้ต้องหา 2 เยาวชนหญิง 13 ปี และ 15 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กดหัวเพื่อนหญิง ม.3 วัย 15 ปี จมสระน้ำจดขาดใจเสียชีวิตเหตุหึงหวงผู้ชาย ท่ามกลางความเศร้าสลดและสาปแช่งกนด่า “ฆ่าเพื่อนได้ลงคอ”ของญาติผู้ตายและชาวบ้านขณะญาติเชิญวิญญาณกลับบ้านแม่ร่ำไห้ขอลูกไปสู่สุคติและให้อโหสิกรรมไม่โกรธแค้นใคร
วันนี้ ( 30 ก.ย. ) ความคืบหน้ากรณีเหตุสลด พบศพเด็กสาว เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลอยเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำบึงบัวใหญ่ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 กันยายน 2566 ในสภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อสีดำ นุ่งกระโปรงสีชมพู ไม่สวมเสื้อชั้นใน หลังจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา น้องเอได้ขอเงินยายเพื่อไปซื้อของมาทำรายงานส่งครู และมีเพื่อนผู้ชายกับเพื่อนผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์มารับที่บ้าน จนช่วงค่ำก็ยังไม่กลับ ยายโทร.หาแต่ติดต่อไม่ได้ กระทั่งช่วงกลางดึกน้องเอโทรศัพท์ไปหาแม่ เรียกว่าแม่ แค่เพียงคำเดียวแล้วสายก็ตัดไป ติดต่อไม่ได้อีกเลย จนมาพบเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตผิดธรรมชาติดังกล่าว ซึ่งผลการชันสูตรของแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา ระบุ เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ
พนักงานสอบสวนจึงได้เร่งตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า เป็นการฆาตกรรม โดยวานนี้ (29 ก.ย.) สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่กอเหตุมาได้ เป็นเด็กหญิงอายุ 13 ปี และ 15 ปี ซึ่งทั้งสองคนขี่รถจักรยานยนต์ไปรับผู้ตายที่บ้านพัก มีภาพวงจรปิดจับภาพไว้ได้ และจากการสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้งสองไปรับผู้ตายออกมาจากบ้านพัก ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามไปยังสระน้ำบริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วผู้ตายมีปากเสียงกับผู้ต้องหาทั้งสองคนเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายไปสนิทสนมกับเพื่อนชายของหนึ่งในผู้ต้องหา ผู้ต้องหาทั้งสองจึงกดผู้ตายลงในน้ำจนขาดใจตาย แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และชุดสอบสวน ได้ให้เยาวชนหญิงผู้ต้องหาทั้งสองคนสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าเพราะยังเป็นเยาวชน ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจและก่นด่าสาปแช่งของญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้าน ที่รับไม่ได้ต่อการกระทำโหดร้ายของเยาวชนผู้ก่อเหตุที่สามารถฆ่าเพื่อนได้ลงคอเพราะความหึงหวง
ขณะเดียวกัน นักข่าวจากหลายสำนักก็ลงพื้นที่ไปติดตามข่าว และดูครอบครัวน้องเอผู้เสียชีวิต ร่วมกันประกอบพิธีเชิญวิญญาณให้น้องกลับบ้านตามความเชื่อ ซึ่งแม่ของน้องเอ กล่าวทั้งน้ำตาขณะเรียกวิญญาณให้กลับบ้านว่า แม่ยังรักยังห่วงและคิดถึงลูกตลอดเวลา อยากให้ลูกอย่าได้โกรธแค้นใคร ขอให้อโหสิกรรม อย่ายึดติดอย่ามีห่วงกังวลอะไร แม่จะดูแลยายและน้องสาวให้ดี ขอให้ลูกไปอย่างสบายมีความสุข ไปในที่ดีดี
หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเชิญเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนอย่างละเอียดเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป