กำแพงเพชร - ชาวบ้านรุมสาปแช่งกันทั้งหมู่บ้าน..ตำรวจหิ้วพ่อ-แม่สุดโหดเหี้ยม จุดไฟแช็กลนลูก 2 คนไม่พอ ผู้เป็นพ่อยังลงมือฆ่าลูกสาววัย 2 ขวบ ขนศพจาก กทม.ใส่ถุงดำโบกปูนฝังอำพรางบ้านเกิดเมียถึงขาณุวรลักษบุรีซ้ำ
กรณี “กัน จอมพลัง” ได้บุกไปช่วยเด็กอายุ 12 ปี และ 4 ขวบ ถูกพ่อทำร้ายเอาไฟแช็กลนทั้งตัวได้สำเร็จ แต่พ่อหลบหนี ตำรวจจึงตามตัวพ่อจนเจอ ล่าสุดผู้เป็นพ่อได้รับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้สังหารลูกสาววัย 2 ขวบอีกคนแล้วโบกปูนฝังไว้ที่บ้าน จ.กำแพงเพชร
วันนี้ (19 ก.ย. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสาสมัครกู้ภัยเตรียมเข้าตรวจสอบจุดฝังร่างเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 15 บ้านคลองใหม่พัฒนา ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี และนำตัวผู้ต้องหาพ่อโหดมาทำแผน
ตามที่ "นายเอ็ม" ผู้เป็นพ่อให้การรับสารภาพว่าฆ่าลูกสาวของตนที่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะนำศพมาฝังยังจังหวัดกำแพงเพชร ในช่วงวันที่ 9-10-11 สิงหาคม 2566
นายสายยันต์ นาหัวนิล ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 บ้านคลองใหม่พัฒนา ญาติภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนในฐานะญาติของฝ่ายหญิงซึ่งเป็นหลาน (ภรรยาของนายเอ็ม) เพิ่งจะทราบจากตำรวจว่านายเอ็มได้ฆ่าลูกสาววัย 2 ขวบ ชื่อ น้องโมเดล เลยมาดูที่เกิดเหตุ และรอเจ้าหน้าที่นำตัวมาชี้จุดโบกปูนฝังศพ
“ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าครอบครัวนี้มีความรุนแรงอย่างไร ทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย และเคยเห็นรอยช้ำที่หน้าของเมียนายเอ็ม แต่นานๆ เขาจะกลับมาบ้านที 2-3 เดือนครั้ง มาทีหนึ่งก็เปิดเพลงเสียงดัง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ กระทั่งทราบว่านายเอ็มได้ฆ่าลูกจากที่อื่นมาอำพรางที่นี่”
ด้านนายสังวร หลึ่งเทพ อายุ 60 ปี ญาติที่รับเลี้ยงลูกคนเล็ก อายุ 6 เดือน ของผู้ก่อเหตุ บอกว่าหลังคลอดลูกชายคนเล็ก "น้องโจโจ้" ได้ 2 วัน นายเอ็มและภรรยาก็ได้ทิ้งลูกไว้ให้ตนเองเลี้ยง จากนั้นก็ติดต่อมาบ้างแต่ไม่ได้ส่งเสียใดๆ ตอนนี้เลี้ยงได้ 6 เดือนแล้ว
ส่วนสาเหตุหรือแรงจูงใจที่นายเอ็มก่อเหตุสลดทำร้ายลูกจนเสียชีวิตและนำมาฝังนั้นตนไม่ทราบสาเหตุเลย ซึ่งลูกๆ ของนายเอ็มและภรรยาตนเองก็ได้เลี้ยงจนโตเดินได้คุยได้ สักพักก็มารับไปอยู่ด้วย
แต่ช่วงหลังเมียนายเอ็มที่มีศักดิ์เป็นหลาน ได้โทร.มาร้องไห้กับภรรยาตนว่าทะเลาะกันบ่อยครั้ง พอรู้ข่าวเรื่องทำร้าย-ฆ่าลูก ก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะโหดร้ายขนาดนี้
นายจำปี ละลี อายุ 59 ปี ญาติฝ่ายภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติครอบครัวนี้จะมาพักที่บ้านหลังดังกล่าวนานๆ ครั้ง มาอยู่ครั้งละ 3-4 วัน ซึ่งปกติก็จะทักทายกันประจำ
แต่ครั้งล่าสุดที่เขาเดินทางมาบ้าน ตนสังเกตเห็นเด็กๆ ที่ตนเคยเลี้ยงดูคลุกคลีที่นั่งมาหน้ารถมีรอยฟกช้ำตามตัว ก็สงสัยว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย และครั้งที่กลับมาอยู่นานสุดประมาณ 1 เดือนมักจะมีปากเสียงกัน อาจเป็นเพราะมีปัญหาตกงานทั้งคู่
“บางครั้งทะเลาะกันเขาก็ใช้เชือกมัดมือภรรยาห้อยแล้วใช้ไม้แขวนเสื้อตีภรรยาร้องโหยหวนโอดครวญตลอดทั้งคืน ส่วนลูกคนเล็กได้ให้ญาติฝั่งภรรยาเลี้ยงไว้”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอ็ม และภรรยาเข้ามาชี้จุดที่โบกปูนฝังลูก 2 ขวบไว้ที่บริเวณครัวหลังบ้าน พบว่าเทปูนหนาประมาณ 5 ซม. ต้องใช้ค้อนทุบและขุดลงไปประมาณ 60-70 เซนติเมตร พบดินปนขยะและทรายทับไว้ชั้นหนึ่ง
ก่อนจะพบศพอยู่ในถุงดำ 3 ชั้น ลักษณะนั่งหลังพิง สภาพศพเน่าเปื่อยเนื้อหนังเริ่มหลุด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 เดือน
โดยระหว่างตำรวจกำลังหาหลักฐานอยู่พบว่ามีชาวบ้านมารอดูกันหลายร้อยคน และต่างส่งเสียงสาปแช่งพ่อและแม่เด็กตลอดเวลา
พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องอาชญากรรมเกี่ยวกับเด็กจากโรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ และนักสังคมสังเคราะห์ เมื่อวาน รวมทั้ง “กัน จอมพลัง” ได้ไปช่วยเด็กพ่อทำร้ายลูกได้รับบาดเจ็บ เมื่อ 10 ก.ย.ทราบว่าเด็กอีกคนที่หายตัวไป
ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอป้ายทะเบียนรถยนต์คนก่อเหตุ จนสามารถสกัดจับตัวมาสอบปากคำ ซึ่งก็พบว่าเป็นพ่อแม่เด็ก ในช่วงแรกทั้งคู่ไม่ยอมบอกข้อมูล แต่ช่วงหลังอ้างว่าเอาลูกสาววัย 2 ขวบไปฝากไว้กับปู่ จึงมีการนำปู่มาสอบปากคำ และทราบว่าทั้งคู่ให้การไม่ตรงกัน
จนในที่สุดนายเอ็มยอมสารภาพกับพ่อของตัวเองซึ่งก็คือปู่ของเด็กว่าได้ฆ่าเด็กและเอาไปฝังไว้ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร
“ระหว่างการทำแผนชี้จุด และขุดเอาศพออกมา พบว่าทั้งคู่ร้องไห้ และจากการตรวจสภาพจิตใจและอาการจิตเวชไม่พบว่ามีประวัติ จึงจะต้องตรวจสอบต่อว่ามีกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้อีกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นมีเพียงสองสามีภรรยาที่ร่วมกันก่อเหตุ แต่จะสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง”