สามเหลี่ยมทองคำ – ชาว สปป.ลาว วิจารณ์กันทั้งแขวง..หลังเจอคำสั่งเลิกกิจการสักลายทุกประเภท-ห้ามออกใบอนุญาตใหม่ ทั่วแขวงบ่อแก้ว-หัวเมืองท่องเที่ยวชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ แถมย้ำใครเปิดอยู่ให้ปิดกิจการแบบไร้เงื่อนไขต่อรองซ้ำ
ໜັງສືພິມລາວພັດທະນາ Laophattana News สื่อออนไลน์ใน สปป.ลาว ได้เผยแพร่หนังสือจากแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว หัวเมืองชายแดนลาวริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้าม อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ที่แจ้งกับเจ้าเมืองทั้ง 5 เมืองในแขวงบ่อแก้ว รวมถึงประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง กองบัญชาการทหารและตำรวจ และชาวต่างชาติที่เข้าไปอาศัยอยู่ในแขวงบ่อแก้ว ให้ยกเลิกกิจการสักลายบนผิวหนังทุกประเภทและห้ามไม่ให้มีการออกใบอนุญาตใหม่ด้วย
หนังสือดังกล่าวอ้างถึงกฎหมายการปกครองท้องถิ่นและข้อตกลงเจ้าแขวง ว่าด้วยการจัดตั้งและเคลื่อนไหวโดยแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว และการประชุมเรื่องการคุ้มครองร้านนวด ร้านเสริมสวย และร้านสักลาย เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา จึงขอแจ้งให้ทุกฝ่ายดังกล่าวได้รับทราบว่าห้ามออกใบอนุญาตจัดตั้งร้านและให้บริการสักลายทุกประเภทภายในขอบเขตแขวงบ่อแก้วอย่างเด็ดขาด รวมทั้งถ้ามีการอนุญาตอยู่เดิมแล้วก็ให้ยกเลิกเสียและให้ปิดกิจการอย่างไม่มีเงื่อนไข
ขณะเดียวกันให้กองบัญชาการทหาร ตำรวจเมือง คณะเฉพาะกิจและห้องการที่เกียวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจตราเพื่อป้องกันการนำเข้าอุปกรณ์สักลายทุกประเภท และหากตรวจพบก็ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ดำเนินคดีกับผู้ละเมิดกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากมีข่าวดังกล่าวออกเผยแพร่ก็ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นเป็นภาษาลาวเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ต่อประกาศดังกล่าว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาแขวงบ่อแก้วถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของลาวตอนเหนือ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและจีน รวมถึงชาติตะวันตก เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวกันอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่เป็นแหล่งบันเทิงขนาดใหญ่ที่มีชาวจีนอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ส่วนนอกเขตเขตเศรษฐกิจฯ ก็มีถนนอาร์สามเอ เส้นทางยุทธศาตร์คุน-มั่ง กงลู่ เชื่อมโยงจากชายแดนไทย-แขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา ชายแดน สปป.ลาว-จีน ด้วย.