เลย - เสียชื่อเชียงคานเมืองท่องเที่ยวริมโขง! นักท่องเที่ยวโพสต์เตือน ใส่บาตรตลาดเช้า ถูกแม่ค้ายัดเยียดขันโตกพร้อมกับข้าว คิดว่าจ่าย 100 แล้วจบ แต่สุดท้ายต้องจ่ายถึง 200 บาท ด้านหน่วยงานรัฐกำชับแม่ค้าขายชุดใส่บาตร ห้ามเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ฝ่าฝืนจับ/ปรับ ถอนใบอนุญาต
จากข่าวดัง นักท่องเที่ยวถูกโก่งราคาอาหารตักบาตร ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในอำเภอเชียงคาน ตอนเช้าได้ไปตักบาตรที่ตลาดเช้า ได้อุดหนุนชุดกับข้าวตักบาตรพระ กับแม่ค้าที่คอยให้บริการอยู่บริเวณนั้น แต่ทราบภายหลังว่ามีการโก่งราคาและยัดเยียดสินค้า จนทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของอำเภอเชียงคาน หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตรวจสอบในเรื่องนี้เป็นการด่วน
ทั้งนี้ จากการโพสต์เฟซบุ๊กของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thitaree Sompar โพสต์ข้อความว่า “ขออนุญาตเตือนภัยนะคะ วันนี้ไปใส่บาตรที่ถนนคนเดินริมแม่น้ำโขงตรงบริเวณสามแยกหน้าวัดท่าคกค่ะ แล้วเจอแม่ค้ายัดเยียดขายกับข้าวให้ใส่บาตร ค่าชุดขันโตกใส่กับข้าว 100 ค่ากับข้าว 100 เราเหลือตังค์ 300 บาท ตอนแรกแค่รับขันโตกอย่างเดียว แต่มีแม่ค้าเดินมาแล้ววางกับข้าวใส่ขันโตกให้ เราก็คิดว่ามาพร้อมขันโตก แต่พอจัดให้เสร็จ บอกค่ากับข้าว 100 บาท สรุปเหลือตังค์ 100 กลับบ้านค่ะ มีใครเจอแบบนี้ ลุกหนีเลยนะคะ (ตอนนั้นกำลังตกใจแล้วก็งงมาก ถึงได้จ่ายไป ต้องมีสติค่ะ) *แต่วิวสวย แล้วก็บรรยากาศดีค่ะ ติดตรงเขายัดเยียดขายเกินไป #ไม่ใช่แม่ค้าทุกคนเป็นนะคะ
จากการโพสต์บนโซเชียลดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของอำเภอเชียงคานเป็นอย่างมาก เพราะเชียงคานเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต้องการมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวไฮไลต์คือ การตักบาตรพระยามเช้า แต่ข่าวดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของอำเภอเชียงคานมาก
ล่าสุดนายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ซึ่งรับผิดชอบการท่องเที่ยว กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้ประสานไปยังอำเภอเชียงคานและเทศบาลตำบลเชียงคาน ให้มีมาตรการเฉียบขาด ตรวจสอบติดตามเรื่องนักท่องเที่ยวโดนเอาเปรียบ โดนโกง ที่ไปตักบาตรพระถนนริมโขงเชียงคาน และให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตาม สอดส่องเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ด้านเทศบาลตำบลเชียงคานได้เรียกผู้ประกอบการ 2 รายที่มีพฤติกรรมในทางไม่ดี เอาเปรียบนักท่องเที่ยว พร้อมทำการตักเตือนเป็นครั้งที่ 3 และหลังจากนี้หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎที่เทศบาลตำบลเชียงคานวางไว้ จะมีการจับ-ปรับและถอนใบอนุญาตการจำหน่ายสินค้าในอนาคตทันที ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการอาหารเช้า ใส่บาตรขันโตกอยู่ประมาณ 60 คน