ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อค้าแม่ค้าตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นบุกศาลากลางร้องนายกรัฐมนตรีช่วย เผยถูก ธ.ก.ส.ฟ้องศาลขับไล่ ไม่ให้เช่าร้าน หมดทางทำมาหากิน ร้องขยายเวลาเปิดร้าน และเงินเยียวยารื้อถอน ด้านผู้บริหาร ธ.ก.ส.ย้ำฟ้องแล้วให้เป็นดุลพินิจของศาล ขณะที่ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเชื่อเจรจาไกล่เกลี่ยได้
วันนี้ (27 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าภายในตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น ใกล้สี่แยกประตูเมืองขอนแก่น ประมาณ 50 คน เดินทางมาชุมนุมพร้อมชูป้ายข้อความเรียกร้องขอความช่วยเหลือ เช่น วอนนายกฯ เศรษฐา ช่วยด้วย ถูกไล่ที่ ขอเถอะ ที่ทำกินเลี้ยงชีพ, ธ.ก.ส.ตลาดกลาง..ขอนแก่น รังแกลูกค้า, ขอความเมตตา เราไม่มีที่ไป, ธ.ก.ส.หยุดรังแกลูกค้า, ขอความยุติธรรมให้เราด้วย ฯลฯ
ทั้งนี้ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นต้องการขอความช่วยเหลือจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนเหตุถูกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ให้รื้อถอนร้านค้าออกจากตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น
นางทราทิพย์ ลิมปิพัฒน์ อายุ 52 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนถูก ธ.ก.ส.ขับไล่ รวมถึงผู้ประกอบการรายอื่นรวมกว่า 41 ครอบครัว ให้หยุดค้าขาย โดยไม่ให้เช่าร้านทำมาหากิน และให้ย้ายออกไปค้าขายที่อื่น ทำให้เดือดร้อนมาก แต่ละรายเคยค้าขายที่ตลาดกลางแห่งนี้มานานแล้ว ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส.ก็ใช้วิธีตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งตนเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง เมื่อถูกตัดน้ำ ตัดไฟ จึงไม่สามารถเปิดร้านขายอาหารต่อไปได้
ที่สำคัญ ตนและพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นก็ล้วนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ต่างใช้บริการกู้เงินธ.ก.ส.มาทำร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น แต่วันดีคืนดีกลับถูก ธ.ก.ส.นำกำลังเจ้าหน้าที่มาขับไล่ออกไปจากร้าน โดยให้เวลารื้อถอน 90 วัน ขณะที่เพื่อนพ่อค้าแม่ค้ารายอื่น ส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้ ดินปลูกต้นไม้ ก็เดือดร้อนมากเช่นกัน เพราะต้องใช้น้ำประปารดน้ำต้นไม้ ทำให้พันธุ์ไม้ที่สั่งมาขายหน้าร้านเหี่ยวเฉาตายจำนวนมาก
“พ่อค้าแม่ค้าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี และนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยพ่อค้าแม่ค้าอยากเรียกร้องให้ ธ.ก.ส.ช่วยขยายเวลาให้เช่าร้านต่อไปอีก 15 เดือน ประการต่อมาให้ ธ.ก.ส.เชื่อมไฟฟ้าและน้ำประปาคืนให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่ถูกตัดน้ำตัดไฟไปก่อนหน้า และสุดท้ายให้ ธ.ก.ส.เยียวยาค่ารื้อถอน เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างในตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น เพื่อย้ายไปขายที่ใหม่” นางทราทิพย์กล่าว
หลังจากนั้น นายไกรสร กองฉลาด ได้เปิดห้องประชุมบริเวณชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยให้ตัวแทนของพ่อค้าแม่ค้าตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น พร้อมด้วยตัวแทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นำโดยนายโสรัต โสพรรณรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมถึงตัวแทนของหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องมาประชุมหาทางออกร่วมกัน
นายโสรัต โสพรรณรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 ธ.ก.ส.ได้ส่งเรื่องฟ้องศาลกับผู้ค้ารายย่อยเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ผู้ประกอบการจะขออยู่ต่อ 15 เดือนนั้นให้เป็นดุลพินิจของศาลพิจารณา ยอมรับว่าการดำเนินเรื่องฟ้องร้องพ่อค้าแม่ค้าลำบากใจมาก เพราะต้องทำตามกฎหมาย และเห็นใจผู้ประกอบการ
ด้าน น.ส.เบญจรัตน์ รัชฎามาศ ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น ได้ชี้แจงว่า ในส่วนของธนารักษ์ได้รับมอบที่ดินผืนนี้จากเอกชน ซึ่งหากไม่ทำตามวัตถุประสงค์เจ้าของที่ดินก็มีสิทธิเรียกร้องเอาที่ดินผืนนี้คืน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการฟ้องผู้ประกอบการต่อศาลจังหวัดขอนแก่น
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จการประชุมว่า เหตุ ธ.ก.ส.ไล่ชาวบ้านออกจากตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นนั้น ตนมองว่าชาวบ้านไม่ได้ทำผิด ที่ดินผืนนี้เกิดจากมีผู้บริจาคให้กรมธนารักษ์ มีเงื่อนไขว่าให้ใช้ทำประโยชน์เพื่อการเกษตร เป็นตลาดกลางค้าข้าวเปลือก หากเอาไปทำอย่างอื่นก็ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ ผู้บริจาคสามารถเรียกที่ดินผืนนี้คืนได้
แต่การดำเนินงานของตลาดกลางสินค้าเกษตร ไม่ได้ขายข้าวเปลือกอย่างเดียว ล่าสุดมีร้านอาหารตามสั่ง มีร้านขายต้นไม้ เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ช่วงเริ่มต้นทำตลาดกลางนั้น ธ.ก.ส.อยากให้ตลาดคึกคัก ก็ไปชวนชาวบ้านมาขายต้นไม้ ขายสินค้าอื่น จึงมีร้านค้าเพิ่มขึ้นดังเช่นปัจจุบันนี้ ทาง ธ.ก.ส.ก็กลัวว่าเจ้าของที่ดินที่บริจาคให้จะทวงที่ดินคืนเพราะถือว่าทำผิดวัตถุประสงค์ใช้ที่ดิน จึงยื่นฟ้องร้องฟ้องชาวบ้านทั้ง 41 ราย เรื่องนี้ตนอยากให้เมตตาถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะพี่น้องทั้งหมดที่เข้าไปค้าขายก็เป็นลูกค้ากู้เงิน ธ.ก.ส.มาทำร้านค้า
ทั้งนี้ เมื่อฟ้องร้องเข้าสู่ขั้นกระบวนการในชั้นศาลแล้ว การเจรจาหาทางออกก็ต้องไปเจรจาในศาล ในเรื่องนี้ตนจะหารือกับทางยุติธรรมจังหวัดขอนแก่นว่าจะมีกระบวนการผ่อนปรนผ่อนผันให้ความช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างไร โดยข้อเรียกร้องของชาวบ้านทั้งสามข้อนั้นให้ไปเจรจาที่ศาล เพราะยื่นฟ้องศาลไปแล้ว แต่เชื่อว่าเมื่อเป็นคำสั่งศาลออกมาอย่างไร ทาง ธ.ก.ส.ก็ต้องยอมปฏิบัติตาม