มหาสารคาม - “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ถือฤกษ์งามยามดี วันที่ 19 เดือน 9 เข้าสักการะองค์พระบรมธาตุนาดูน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ชาวบ้านทำพิธีบายศรีแห่ผูกแขนตามประเพณีอีสานต้อนรับอบอุ่น
วันนี้ (19 ก.ย. 66) ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางเข้าสักการะองค์พระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม โดยมีปลัดจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายอำเภอนาดูน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนชาวอำเภอนาดูนร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
โอกาสนี้ ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบปะประชาชนชาวอำเภอนาดูนที่มาร่วมให้การต้อนรับ และร่วมแห่ผ้าคลุมองค์พระบรมธาตุนาดูน 3 รอบ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ซึ่งพระบรมธาตุนาดูน หรือพุทธมณฑลแห่งอีสาน นับว่าเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา และกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในภาคอีสานและผู้ที่เคารพนับถือทั่วประเทศไทย เนื่องจากมีการค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด อายุเก่าแก่สมัยทวารวดี
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะได้เดินทางมาที่อุโบสถไม้ตะเคียนทองวัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม เพื่อร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคลตามประเพณีอีสาน โดยมีพี่น้องประชาชนมารอต้อนรับอย่างคึกคักตั้งแต่หน้าประตูวัด จนกระทั่ง ดร.สุทิน คลังแสง ลงจากรถก็มีประชาชนและแฟนคลับมารุมล้อมมอบกระเช้าแสดงความยินดีและให้ดอกไม้ ตลอดจนขอถ่ายภาพร่วมเป็นจำนวนมาก
พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ทายกทายิกา วัดพุทธวนาราม ได้รอต้อนรับที่กุฏิพร้อมช้างพลายขนาดใหญ่จำนวน 2 เชือก และพารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขึ้นสู่อุโบสถไม้ตะเคียนทองหลังใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อประกอบพิธีและเจริญพุทธมนต์ โดยมีประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามมาร่วมพิธีครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นได้มีการให้ผู้มาร่วมพิธีได้นำฝ้ายสีขาวที่ผ่านพิธีปลุกเสกมาผูกข้อมือ ดร.สุทิน คลังแสง พร้อมคำอวยพรให้พบความเจริญก้าวหน้า บริหารงานในกระทรวงกลาโหมด้วยความราบรื่น ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กันและกัน ซึ่งพี่น้องชาวอีสานถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติและอบอุ่นที่พี่น้องมาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ในฐานะที่เป็นผู้แทนของชาวมหาสารคาม และมีโอกาสดำรงตำแหน่งที่ทรงเกียรติในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือว่าเป็นกระทรวงที่สำคัญในการปกป้องสถาบันหลักของชาติและปกป้องอธิปไตยของชาติ ตลอดจนการปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน และถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาวมหาสารคามที่มีโอกาสรับตำแหน่งในครั้งนี้ และจะใช้โอกาสนี้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนทุกคน
โดยจะนำนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะการทหาร ทหารจะต้องเป็นทหารของประชาชน กองทัพต้องออกมาช่วยประชาชน ทหารและกองทัพจะต้องยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประชาชน สามารถให้การช่วยเหลือได้ทุกเรื่อง