xs
xsm
sm
md
lg

"เศรษฐา" ปิดท้ายลงพื้นที่เชียงใหม่รับฟังผลกระทบเพิ่มเที่ยวบิน-ติดตามคืบโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - นายกรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจส่งท้ายลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ล้อมวงรับฟังปัญหาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นลงของอากาศยานเพื่อการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร และประชุมติดตาม ความคืบหน้าโครงการ พัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ระยะที่1ขยายศักยภาพรองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคนต่อปี


วันนี้ (17 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี ร่วมกับนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นลงของอากาศยาน ตามที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ระยะที่ 1 บนพื้นที่เดิม ซึ่งจะทำให้มีการขยายเวลาให้บริการและเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน มีประชาชนเข้าร่วมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก โดยตัวแทนจากชุมชนนิมมานนรดีที่ได้รับผลกระทบ บอกว่า หลายปีที่ผ่านมาประชาชนที่อาศัยอยู่แนวขึ้นลงของอากาศยานได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง แรงสั่นสะเทือน และกระแสลมที่ทำให้กระเบื้องหลังคาแตกเสียหายกว่า 5 ปี และได้รับเงินเยียวยาเพียง 20,000 บาท หากท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง หวั่นเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนมากกว่านี้ จึงอยากให้กำหนดมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องเงิน แต่อยากให้มีมาตรการลดผลกระทบจากเสียงและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนด้วย โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดกับประชาชนว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้มากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นด้านการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ปัญหา ปัญหาปากท้องและการพัฒนาคุณภาพชีวิต รัฐบาลมีความตั้งใจจริง อะไรที่ทำให้ได้ก่อนก็จะพยายามอย่างเต็มที่


จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังแผนดำเนินการของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ตามแผนแม่บทท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการให้บริษัทที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบโครงการ โดยจะใช้งบประมาณประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเศษ เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 8 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 16.5 ล้านคนต่อปี โดยทำการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเดิมให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ พร้อมขยายหลุมจอดเพิ่มและปรับปรุงระบบต่างๆ ที่งานสนับสนุนท่าอากาศยาน ทั้งนี้ หากการสำรวจออกแบบแล้วเสร็จ และผ่านความเห็นของคณะรัฐมนตรี ตามแผนที่กำหนดไว้การก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 จะแล้วเสร็จภายในปี 2572 นอกจากนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังกำหนดแผนโครงการพัฒนาระยะที่ 2 โดยมีเป้าหมายรองรับผู้โดยสารได้ถึง 20 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2576 โดยมีระบบทางวิ่งและทางขับรองรับเที่ยวบินได้ 31 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และขยายลานจอดอากาศยานเป็น 38 หลุม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมและภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หลังจากมีการเตรียมแผนเปิดท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฝั่งยุโรป บินตรงมายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นเครื่องบินที่รองรับผู้โดยสาร 500 คนขึ้นไป ปัจจุบันระบบทางวิ่งและทางขับของท่าอากาศยานเชียงใหม่ สามารถรองรับได้และมีมาตรฐานความปลอดภัยอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดบิน 24 ชั่วโมง ในเดือนพฤศจิกายน 66 นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น