xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งกว่าอ่วม! ผญบ.ม.3 แสมสารรุกทะเล 7 ไร่ ถูกกรมป่าไม้แจ้งความเอาผิดอีก 4 ข้อหา พร้อมเจ้าของรีสอร์ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยิ่งกว่าอ่วม! ผญบ.ม.3 แสมสาร บุกรุกทะเลแสมสาร จ.ชลบุรี เนื้อกว่า 7 ไร่ ล่าสุด ถูกเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้แจ้งความเอาผิดอีก 4 ข้อหาหนัก หลังก่อนหน้านี้มีหลายหน่วยงานแจ้งเอาผิดแล้ว ครั้งนี้เจ้าของรีสอร์ตโดนด้วย

จากกรณีที่ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอสัตหีบ และนายนิเวศน์ กุศล ปลัดฝ่ายความมั่นคง นำกำลังร่วมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมเจ้าท่า ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่กองอสังหาริมทรัพย์ฐานทัพเรือสัตหีบ และ อบต.แสมสาร ลงพื้นที่ตรวจสอบด้านหลังรีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการสร้างเขื่อนหิน ถมหาดทราย เพื่อสร้างแลมป์ขึ้นลงเรือรุกทะเล หน้าหาดด้านรีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) พร้อมด้วย นายนพดล แสงขาว ผู้อำนวยการศูนย์และเจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อให้ดำเนินคดี นายอภิชาติ อร่ามรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ต.แสมสาร ม.3 และพวกในฐานความผิด “ล่าหรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใดแก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างอิสระ”

ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 3 ประกอบมาตรา 12 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ชาวบ้านใน ต.แสมสาร อีกกว่า 200 รายได้ร่วมกันลงรายชื่อยื่นหนังสือถึง นอภ.สัตหีบ เพื่อให้เอาผิดผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าวที่บุกรุกพื้นที่ที่สาธารณะหน้าหาดรีสอร์ตหรูนั้น


ล่าสุด วันนี้ (11 ก.ย.) นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย นายสุนทร พุ่มโพธิ์ทอง กำนันตำบลแสมสาร และนายณัฐพงศ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต. แสมสาร น.ส.อุรุอาริยา บุญนำมา ประมงอำเภอสัตหีบ รวมทั้งนายมงกรด อุ่นเรือน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส และเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง

โดย นายมงกรด เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส เผยว่าจากการใช้เครื่องอ่านพิกัดตำแหน่งด้วยดาวเทียม (GPS) วัดพิกัดรอบแปลงได้จำนวน 6 จุด คิดเป็นเนื้อที่บุกรุก 7-1-01 ไร่ อยู่บริเวณพิกัด 713450 E 1396450 N (WGS84) เป็นที่ชายทะเลที่มีการสร้างเขื่อนคอนกรีต ขนาดความกว้าง 1 เมตร ความยาว 79.50 เมตร อยู่ด้านตะวันออกของพื้นที่

และลานคอนกรีตความกว้าง 5.10 เมตร ความยาว 103.50 เมตร อยู่ด้านตะวันตกของพื้นที่ คิดเป็นเนื้อที่ 527.85 เมตร ภายในพื้นที่มีร่องรอยการขุดและนำทรายมากองไว้ บางจุดนำหินก่อสร้างจากข้างนอกมาเตรียมไว้เพื่อก่อสร้าง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน จึงเป็น “ป่า” และบริเวณดังกล่าวไม่มีการอนุญาตให้บุคคลกระทำการใดๆ จากพนักงานเจ้าหน้าที่และการกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 62 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97


จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกการตรวจยึดพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ เพื่อดำเนินคดี นายนฤดล พิสิษฐเกษม เจ้าของรีสอร์ต และนายอภิชาติ อร่ามรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.แสมสาร ในความผิด 4 ข้อหา คือ

1.พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

2.ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐาน ร่วมกันยึดถือหรือครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลาย หรือเสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด ที่ทราย ในบริเวณที่ดินซึ่งรัฐมนตรีประกาศหวงห้ามหรือผู้ที่กระทำการใดๆ อันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน หรือกระทำแก่ที่ดินของรัฐ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

3.พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 62 ฐานร่วมกันทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่ จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ให้ผิดไปจากสภาพที่เป็นอยู่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

และ 4.พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ฐานร่วมกันกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหายหรือเสียหายไปนั้น









กำลังโหลดความคิดเห็น