xs
xsm
sm
md
lg

บุกร้องสอบเอาผิดครูสาวแสบ! หลอกบริจาคเงินให้ ร.ร.-ยืมเงิน 2 แสนไม่คืน แถมปลอมใบอนุโมทนาบัตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - พนักงานบริษัท จ.ชลบุรีหอบเอกสารหลักฐานบุกร้อง สพป.เขต 4 บุรีรัมย์ ให้สอบเอาผิดครูสาว หลอกบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรม ร.ร. โดย ร.ร.ไม่รับรู้และยืมเงินไม่คืนอีกกว่า 2 แสน พร้อมออกใบอนุโมทนาบัตรปลอมให้ ต้นสังกัดเตรียมตั้ง กก.สืบข้อเท็จจริง ด้านครูยอมรับปลอมเอกสารและลายเซ็น ผอ.จริง แต่ไม่ได้หลอกบริจาค ยันนำเงินไปเลี้ยงอาหารเด็กและทำกิจกรรมจริง

วันนี้ (7 ก.ย.) นางปราณปรียา เอกมาตฤกุล พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ชลบุรี ได้หอบเอกสารหลักฐานทั้งแชตการสนทนา สลิปการโอนเงิน รูปถ่ายนักเรียนที่ทำกิจกรรมต่างๆ เดินทางข้ามจังหวัด เข้าร้องเรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ซึ่งตั้งอยู่อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ตรวจสอบเอาผิด น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง

นางปราณปรียา เอกมาตฤกุล พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ชลบุรี ผู้เสียหาย
โดยกล่าวหาว่าข้าราชการครูคนดังกล่าว มีพฤติกรรมหลอกลวงให้ช่วยบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรม และเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนในโรงเรียนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 13,000 บาท ทั้งยังปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ลายเซ็นอดีต ผอ.โรงเรียน และประธานกรรมการสถานศึกษา ด้วยการออกใบอนุโมทนาบัตรปลอมให้ผู้บริจาคด้วย

นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมขอหยิบยืมเงินหลายครั้ง อ้างจะนำไปปล่อยกู้ต่อแล้วแบ่งผลประโยชน์เป็นดอกเบี้ยให้รวมเป็นยอดเงินสะสมเกือบ 200,000 บาท แต่ไม่ยอมจ่ายคืนทวงถามหลายครั้งก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่ตลอดทำให้ผู้ร้องได้รับความเดือดร้อน เสียหายด้วย


นางปราณปรียา ผู้ร้อง บอกว่า ที่หลงเชื่อร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือกิจกรรม และเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียน และยอมให้ยืมเงิน เนื่องจากสามีเขาเคยรู้จักกับอดีตสามีของตนเอง จึงไว้ใจไม่คิดว่าจะกล้าหลอกหรือโกง โดยเฉพาะเอาเด็กนักเรียนมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ช่วยบริจาคเงินด้วยความสงสารเด็กและอยากทำบุญจึงช่วยบริจาค กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเงินที่บริจาคมาทางโรงเรียนไม่รับรู้ ส่วนใบอนุโมทนาบัตรก็ปลอมขึ้น ยังโชคดีที่ตนเองไม่ได้นำไปขอลดหย่อนภาษีไม่อย่างนั้นคงมีความผิดฐานปลอมเอกสารด้วย จึงได้นำหลักฐานมาร้องเรียนต่อเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อให้ตรวจสอบเอาผิดทั้งระเบียบ วินัย และกฎหมาย และอยากให้รับผิดชอบคืนเงินที่ยืมไปทั้งหมดด้วย


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม น.ส.เอ ข้าราชการครูที่ถูกร้องเรียน ซึ่งสอนอยู่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าได้ปลอมใบอนุโมทนาบัตรจริง ด้วยการพิมพ์มาจากคอมพิวเตอร์ แล้วปลอมลายเซ็นอดีต ผอ.โรงเรียน และประธานกรรมการสถานศึกษา แต่เจตนาเพื่อจะทำการขอบคุณนางปราณปรียา ที่ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรมการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น และไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา แต่ยืนยันว่าไม่ได้หลอกให้บริจาคเงิน แต่เป็นการชวนร่วมสนับสนุนกิจกรรมของเด็กนักเรียน โดยตนได้นำเงินที่เขาบริจาคมาไปทำกิจกรรมและเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนจริง ทั้งงานกีฬา วันเด็ก และวันสำคัญต่างๆ แต่เมื่อผู้ร้องติดใจและไปแจ้งความเอาผิดตนเองก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการซึ่งเบื้องต้นได้ไปให้ปากคำต่อตำรวจที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และนำหลักฐานไปยืนยันเบื้องต้นแล้ว

ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าตนยืมเงินนั้น ยอมรับว่ายืมจริงแต่เป็นการลงทุนร่วมกัน เพราะเงินดังกล่าวนำไปปล่อยกู้ต่อ ดอกเบี้ยที่ได้ก็แบ่งกัน แต่ระยะหลังคนที่กู้ไม่ชำระตามกำหนดจึงไม่มีเงินไปจ่ายคืน อยู่ระหว่างติดตามเงินจากผู้ที่กู้และทยอยคืนให้

ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ภายหลังรับเรื่องจะทำการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง หากพบมีมูลตามที่มีการร้องเรียนก็จะตั้งกรรมการสอบ และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น