เชียงราย - เห็นเอาแต่อุ้มไก่ชนตระเวนลงสังเวียน แต่รวยผิดหูผิดตา.. “ป.ป.ส.” แกะรอยร่วมกับทหาร ตำรวจ ตามสอยคู่หูหนุ่มม้ง รับงานขนยาบ้า 2 ล้านเม็ด ออกจากป่าแหล่งพักยาส่งจุดนัดหมาย สอบพบเคยรับงานมาก่อนหลายครั้ง แต่หัวโจกคนสั่งการหนีได้
วันนี้ (6 ก.ย. 66) เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด (ปป.) 2 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมกับทหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) บก.ควบคุม ศป.บส.ชน.ที่ 3, ศปก.ทบ., กองกำลังผาเมือง, ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.), ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เชียงราย, สภ.บ้านดู่ และชุดสืบสวน ศอ.ปส.ภ.5 ควบคุมตัวนายสนั่น (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย และนายดอน อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาล่าสุดอยู่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 2,000,000 เม็ด ดำเนินคดี
การจับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่พร้อมของกลางยาบ้าล็อตใหญ่นี้มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สังกัด ปป.2 พบว่านายสนั่น และนายสุรเดช คู่หูชาวม้งที่ชอบไปเล่นชนไก่โดยไม่ได้ประกอบอาชีพอื่น แต่กลับมีฐานะร่ำรวยและเช่าบ้านพักอยู่ที่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย และในช่วงเดือน ส.ค.ยังได้พากันขับรถยนต์คนละคันเข้าไปยังพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ซึ่งมีป่าเขาที่เป็นแหล่งพักยาเสพติดที่ขนมาจากชายแดนหลายครั้ง
กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย.เจ้าหน้าที่พบทั้ง 2 คนขับรถยนต์กระบะคนละคัน ออกเดินทางจากสี่แยกสนามบิน ถนนพหลโยธินบริเวณ ต.บ้านดู่ มุ่งหน้าไปทางถนนหมายเลข 1418 ทางเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันออก และขับขึ้นเหนือไปทางสี่แยกท่าข้าวเปลือก-หนองบัวแดง เมื่อถึงพื้นที่ ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมืองเชียงราย รถคันหนึ่งได้เลี้ยวเข้าไปบนถนนที่เป็นทางเปลี่ยวและมีป่าละเมาะ ก่อนแวะเข้าไร่ข้าวโพดนานประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วได้ขับออกมาสมทบกับคันแรกและพากันขับย้อนกลับไปทาง ต.บ้านดู่ เช่นเดิม
เจ้าหน้าที่คาดว่ามีการขนยาเสพติดใส่รถคันใดคันหนึ่งเรียบร้อยแล้วจึงได้นำกำลังออกสกัดบริเวณสี่แยกขัวแคร่ ต.บ้านดู่ และจากการตรวจรถคันแรกพบเป็นยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ติดป้ายทะเบียน จ.เชียงราย พบนายสนั่นเป็นคนขับและมีนายดอนนั่งโดยสารมาด้วย
ขณะที่เบาะนั่งหลังรถพบบรรทุกกระสอบฟางมาด้วย 10 ใบ ภายในบรรจุห่อยาบ้าประทับตราเลข 88 สีน้ำเงิน แต่ละห่อบรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 2,000,000 เม็ดดังกล่าว
ส่วนรถยนต์เป้าหมายอีกคัน เป็นยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน จ.เชียงราย ที่นายสุรเดช คนสั่งการเป็นคนขับตามมานั้น พบว่าถูกจอดทิ้งไว้ข้างทาง โดยนายสุรเดชอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาผู้ถูกจับกุมว่า "ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีไว้ในครอบครองซึ่งยาบ้าเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป"
จากการสอบสวนนายสนั่นให้การว่านายสุรเดชเป็นคนว่าจ้างให้ร่วมกับนายดอนไปรับยาเสพติดจากบุคคลไม่ทราบชื่อบนถนนหมายเลข 1418 เพื่อให้นำไปส่งที่บ่อขยะใกล้ถนนหมายเลข 131 ทางเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตก (บ้านดู่-ห้วยปลากั้ง) แลกกับเงินค่าจ้าง 10,000 บาท โดยได้รับงานขนยาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเคยใช้รถคันเดียวกันขนจากพื้นที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ไปส่งที่ อ.จุน จ.พะเยา ได้เงินค่าจ้าง 50,000 บาท
ส่วนนายดอนให้การว่านายสุรเดชเป็นคนจ้างด้วยเงิน 5,000 บาท ให้ไปขนยาดังกล่าวร่วมกับนายสนั่น โดยก่อนขนได้พากันขับรถดูเส้นทางแล้ว 2-3 รอบ และก่อนหน้านี้ยังเคยร่วมกันขนยาบ้า 10 กระสอบมาจากพื้นที่ ต.แม่ยาว ไปวางที่บ่อขยะเดียวกันมาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขยายผลไปตรวจที่ห้องพักเช่าของนายดอนที่ ต.บ้านดู่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่พบภรรยาของนายดอนยืนร้องไห้ขณะอุ้มลูกอายุไม่ถึง 1 ขวบด้วยความเสียใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ยังสืบทราบอีกว่านายสุรเดช และนายสนั่นเคยเกี่ยวข้องกับการขนยาบ้า 4,000,000 เม็ด แต่ถูกทหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (คอ.ปส.ชน.) ร่วมกับตำรวจ สภ.งาว จ.ลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดเอาไว้ได้ในพื้นที่ อ.งาว พร้อมผู้ต้องหาได้ 4 คน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566 อีกด้วย