เชียงราย - ตำรวจเชียงรายแกะรอยไล่สกัดจับกลางดึก..กระบะตีรถเปล่าขึ้นดอยแม่ฟ้าหลวงตามทาง 1130 แม่สลอง-เทอดไทย ตอนตีหนึ่งเศษ ขากลับขนยาบ้ามาเต็มคัน 17 เป้ใหญ่ รวมกว่า 1,770,000 เม็ด
วันนี้ (21 ส.ค. 66) พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตรกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ทรรศ์ธนสรณ์ จุฑารัตน์ ผกก.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวนมากพร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนเป็น ผธ 2209 เชียงราย และเร่งขยายผลตามกฎหมาย
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เชียงราย สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะขนยาบ้าจำนวนมากมาจากชายแดนไทย-เมียนมาด้าน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อจะขนลำเลียงต่อเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศจึงได้วางกำลังตรวจสอบทั่วบริเวณ
กระทั่ง 18 ส.ค.เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะของกลางขับผ่านพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว มุ่งหน้าเข้า อ.แม่จัน รุ่งขึ้น (19 ส.ค.) เวลาประมาณ 01.20 น. รถคันเดียวกันได้แวะจอดเติมน้ำมันพื้นที่ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน บนถนนพหลโยธิน ก่อนจะขับออกจากปั๊มแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นไปทางถนนหมายเลข 1130 (ทางขึ้นดอยแม่สลอง-เทอดไทย)
แต่เมื่อถึงบ้านป่าเมี่ยง หมู่ 15 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน เส้นทางคดเคี้ยวและมืด ทำให้รถเป้าหมายคลาดสายตาเจ้าหน้าที่และขับหายไปกับขุนเขา เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังสกัดแทน กระทั่งเวลาประมณ 02.40 น.วันเดียวกัน รถคันดังกล่าวได้ขับลงมาจากภูเขาตามเส้นทางผ่านหมู่บ้านป่าเมี่ยงมุ่งหน้าจะลงสู่ถนนพหลโยธินที่จุดเดิม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังออกติดตาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อรถไปถึงพื้นที่บ้านร่องคี หมู่ 1 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน คนขับกลับไหวตัวเลี้ยวซ้ายหลบหนีเข้าไปในซอยสาธารณะ เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปปรากฏว่าคนขับรถและคนที่นั่งมาด้วย รวม 2 คน ได้ทิ้งรถแล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะพบบนเบาะโดยสารบรรทุกกระเป๋าเป้หนังแบบสะพายยี่ห้อเดียวกันทั้งหมดจำนวน 17 ใบ แต่ละใบบรรจุยาบ้าประมาณ 100,000-110,000 เม็ด รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 1,770,000 เม็ด หนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 213 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาผู้หลบหนีว่า "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน เป็นการกระทำโดยห้วหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการหรือมีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป" จากนั้นได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป