กาฬสินธุ์ - รองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์จี้ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ชี้แจงภาพถ่ายบุคคลหน้าคล้ายเจ้าหน้าที่ธนารักษ์กาฬสินธุ์พานายทุนค้าไม้พะยูงเดินสายใช้สว่านเจาะแก่นไม้พะยูงตามโรงเรียน เล็งเชือดวินัย 157 ด้านพ่อค้าอดสวาปามไม้พะยูงราคาถูก
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ การตรวจสอบพบว่ามีบุคคลของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง 8 ราย และยังมีปัญหาตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท โดยเรื่องนี้จังหวัดส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. สตง. ป.ป.ท.เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ตั้งคณะไต่สวนจัดชุดใหญ่ตรวจสำนวนตำรวจ
ส่วนชาวบ้านที่รักษ์ผืนป่าทยอยส่งหลักฐานการประมูลไม้พะยูงตามโรงเรียนในเขต สพป.เขต 2 หลายแห่ง โดยปรากฏที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก ล่าสุดยังนำหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพชายฉกรรจ์ 7 คนเข้าไปเจาะดูแก่นไม้พะยูงภายในโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวการเปิดโปงพฤติกรรมการตัดไม้หวงห้ามโดยเฉพาะไม้พะยูง ตามโรงเรียน ในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา เขต 2 กาฬสินธุ์ เป็นปัญหาข้ออ้างกล่าวถึงระเบียบพัสดุของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ว่าสามารถกระทำได้ตามระเบียบพัสดุของกรมธนารักษ์จริงหรือไม่ และตกเป็นข่าวฉาวมานานเกือบ 1 เดือนนั้น
ขณะนี้ปรากฏว่ามีชาวบ้านในพื้นที่โรงเรียนที่ถูกตัดไม้พะยูงไปแล้ว ได้ส่งเอกสารหลักฐานผ่านมายัง กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ ที่เป็นข่าวเกิดขึ้น 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ไม้พะยูงถูกตัดไป 22 ต้น 2 ตอ โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก ถูกตัด 9 ต้น และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก ถูกตัด 3 ต้น ทั้ง 3 แห่งนี้ถูกตัดไม้พะยูงไปทั้งหมดแล้ว เรื่องนี้ ป.ป.ท.จ.ขอนแก่นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสอบสวนเกี่ยวกับระเบียบพัสดุ รวมถึงข้อห้ามตามกฎหมาย รวมถึงหตุผลการตัดไม้ จำนวนเงินที่ไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายต่อความเสียหายไม้พะยูง
เบื้องต้นถือว่าการประมูลส่อผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย คู่สัญญาระหว่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ อีกทั้งข้อมูลประกอบธุรกิจการค้าไม้จากพาณิยช์จังหวัดกาฬสินธุ์ยืนยันว่าการตัดไม้หรือประกอบธุรกิจการทำไม้โดยเฉพาะไม้หวงห้ามนั้นไม่มีจริง หากมีการกล่าวอ้างว่าค้าขายไม้หรือประมูลไม้ถูกต้องถือเป็นการลวงโลก ขณะนี้ได้ทำหนังสือเชิญพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์เข้ามาร่วมตรวจสอบปัญหานี้ด้วยแล้ว
ส่วนกรณีสื่อนำเสนอข่าวภาพหลักฐาน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 จากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนโคกกลางเหนือ อ.ห้วยเม็ก สามารถจับภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ นำสว่านมาเจาะต้นพะยูงภายในโรงเรียนจำนวน 9 ต้น และมีการพูดคุยกับครูว่าจะมีการประมูลไม้พะยูงขายนั้น ได้วิทยุสั่งการไปยังนายอำเภอห้วยเม็กให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำบันทึกเป็นรายงานว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดนั้นคือใคร เป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ในพื้นที่จริงหรือไม่ หากจริงจะต้องมีการชี้ตัว
หากใช่ต้องดำเนินการทางวินัย ม.157 ซึ่งจะต้องสอบถามว่าธนารักษ์มีหน้าที่อะไร ถึงใช้สว่างเจาะไม้พะยูง ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนข้อมูลจะให้อำเภอประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม ซึ่งหากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธนารักษ์กาฬสินธุ์ คงเป็นกลุ่มนายทุนจีนค้าไม้ที่เหิมเกริมแฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายเข้ามากระทำการเช่นนี้ ถือเป็นภัยคุกคามที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าการสอบสวนจาก ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.จ.ขอนแก่น แต่มีความเคลื่อนไหวของหลายภาคส่วน ที่ให้ข้อมูลแนวทางเพื่อทราบข้อเท็จจริงจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกัน อีกทั้งสองหน่วยงานนี้ก็ยังไม่ให้ข้อมูล แต่อ้างว่ารายงานเรื่องทั้งหมดส่งไปให้ส่วนกลาง ให้ไปติดตามเอาเองกับอธิบดีกรมธนารักษ์ รวมถึงเลขาฯ สพฐ.
รายงานแจ้งว่ามีความเคลื่อนไหวบนเว็บไซต์ของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ครั้งแรก ตั้งแต่มีปัญหาตรวจสอบการตัดไม้พะยูงโรงเรียนเพื่อการประมูล เป็นการออกประกาศยกเลิกประมูลไม้พะยูง ทำเอาคนค้าไม้ฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง โดยประกาศระบุว่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ยกเลิกประกาศขายทอดตลาดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ (ต้นพะยูง) จำนวน 27 ท่อน ของโรงเรียนบ้านคำเชียงวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยวิธีประมูลด้วยวาจา เนื่องจากคณะกรรมการประเมินราคาต้นไม้ขอทบทวนราคากลางมูลค่าไม้ขั้นต่ำใหม่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ จึงขอยกเลิกประกาศดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่าไม้พะยูง 27 ท่อน หลังถูกคนร้ายลักลอบตัด และนำมาเก็บรักษาไว้ที่หลังสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ออกประกาศขายทอดตลาดทางเว็บไซต์เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 66 กำหนดเปิดให้ประมูลไม้พะยูง 27 ท่อน ปริมาตร 2.52 ลูกบาศก์เมตร ราคาเริ่มต้น 40,000 บาท ในวันที่ 8 ก.ย. 66 ที่ห้องประชุมสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์
ต่อมาประกาศบัญชีไม้พะยูงที่จะขายทอดตลาดจำนวนดังกล่าวถูกลบออกจากเว็บไซต์ ล่าสุดได้ยกเลิกประกาศ 22 ส.ค. 66 และประกาศยกเลิกทางเว็บไซต์ ทำให้บุคคลในวงการค้าขายไม้พะยูง พ่อค้าตัวแทนนายทุนจีน ซึ่งคาดว่ามีหลายคนที่เตรียมจะประมูลรู้สึกผิดหวัง
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ อ.ห้วยเม็ก อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ส่งข้อมูลหลักฐานมาทาง กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ เริ่มไม่สบายใจในการทำงานเนื่องจากมองว่าล่าช้า เพราะกรณีนี้นานเกือบ 1 เดือน ซึ่งพบว่ามีเพียงตำรวจส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีต่อ 8 ข้าราชการที่พัวพันกับของกลางที่หายที่หน้าเสาธงสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด แต่ในส่วนของการตัดไม้พะยูงตามโรงเรียนกลับไม่สามารถดำเนินการทราบข้อเท็จจริงอย่างใดได้เลย จึงขอให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เข้ามาตรวจสอบปัญหานี้อย่างเร่งด่วนด้วย