เชียงใหม่ - ฝนตกต่อเนื่อง คันดินบ่อเกรอะฟาร์มหมูทรุดตัว ทำน้ำปนเปื้อนขี้หมูไหลทะลักเข้าท่วมสวนเกษตรชาวบ้านเสียหาย ก่อนจะไหลลงน้ำแม่แตง-คลองชลประทาน จนน้ำคลองชลฯ แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาเชียงใหม่ กลายเป็นสีดำเหม็นคละคลุ้ง-ปลาน็อกน้ำตาย โชคดี จนท.ผันน้ำลงแม่ปิงได้ก่อน
วันนี้ (24 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำคลองชลประทานแม่แตง จ.เชียงใหม่ กลายเป็นสีดำคล้ำ กำลังไหลผ่านประตูระบายน้ำแม่แตง ซึ่งชาวบ้านถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน หลังจากเกิดเหตุคันดินบ่อเกรอะภายในฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่แตง อ.แม่แตง ทรุดตัว ทำให้น้ำที่ปนเปื้อนด้วยสิ่งปฏิกูลไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรของชาวบ้านหมู่ 2 ต.แม่แตง อ.แม่แตง ที่อยู่ใต้ทิศทางน้ำ
ก่อนที่น้ำเสียทั้งหมดจะไหลลงสู่ลำห้วยเหี๊ยะและไหลต่อลงลำน้ำแม่แตง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาแม่น้ำปิงบริเวณเหนือฝายทดน้ำ แล้วจะไหลแยกลงคลองชลประทานแม่แตง ซึ่งเป็นแหล่งส่งน้ำดิบเพื่อใช้ผลิตน้ำประปาในตัวเมืองเชียงใหม่ และอำเภออื่นในพื้นที่ทางตอนใต้ จ.เชียงใหม่ จนทำให้สีของน้ำทั้งสองเส้นกลายเป็นสีดำขุ่นส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งตลอดลำน้ำ ปลาน้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน้ำลอยตายบนผิวน้ำ ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บางรายก็มาจับปลาที่น็อกน้ำเพื่อนำไปประกอบอาหาร
ต่อมานายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอแม่แตง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ประสาน ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตงได้ปิดประตูน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง และผันมวลน้ำเสียทั้งหมดลงสู่แม่น้ำปิงผ่านคลองซอย 4L พื้นที่ อ.แม่แตง ได้ทันก่อนที่มวลน้ำปนเปื้อนทั้งหมดจะไหลผ่านคลองชลประทานเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
ด้านนายอำนาจ อินทร์วงศ์แก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งผันน้ำเสียออกจากคลองส่งน้ำอย่างเร่งด่วน โดยสามารถผันน้ำเสียออกจากคลองชลประทานได้ภายใน 3 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจพบตะกอนสีดำที่ปะปนมากับน้ำเสีย
หลังจากนี้จะได้มีการสำรวจคลองส่งน้ำสายดังกล่าวซึ่งขณะนี้พบว่าน้ำเสียที่ไหลลงสู่ลำน้ำแม่แตงได้ลดลงแล้ว คาดว่าจะสามารถผันน้ำจากลำน้ำแม่แตงเข้าคลองชลประทานแม่แตงเพื่อระบายตะกอนสีดำที่มากับน้ำเสียออกจากคลองชลประทานให้ไหลลงน้ำปิงก่อนจะปล่อยน้ำลงในคลองต่อไป
ขณะที่นายประยุทธ โชติวชิรา เจ้าของสวนกล้วยหอม ใกล้กับฟาร์มหมูดังกล่าวเปิดเผยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่แตง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ว่าตนได้ทำการเกษตรในพื้นที่ดังกล่าวมานานนับ 10 ปี ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาฟาร์มหมูปล่อยน้ำเสียเข้ามาในสวนเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำเสียไหลลงลำห้วยหลากเข้าสวนตลอด
ซึ่งในปีนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปีที่ตนต้องทนกับเรื่องนี้ จากก่อนหน้านี้ที่เคยปลูกผลไม้ชนิดอื่นแล้วไม่ติดดอกออกผลเนื่องจากน้ำเสียที่ไหลลงมาทำให้ดินเค็ม พอปีนี้หันมาปลูกกล้วยคิดว่าดูแลง่ายกลับถูกน้ำเสียจากฟาร์มหมูไหลทะลักเข้าท่วมทำให้กล้วยที่ปลูกไว้กำลังออกผลทั้ง 15 ไร่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและคงเพาะปลูกไม่ได้อีก หลังจากนี้ตนจะแจ้งความเอาผิดเจ้าของฟาร์มหมูกับเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้ และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้ามาแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานานนับ 10 ปีด้วย
นางอัจฉราภรณ์ อุปนันท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.แม่แตง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านจึงลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เบื้องต้นพบว่าชาวบ้านที่ทำการเกษตรใกล้กับฟาร์มหมูได้รับผลกระทบ 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายหลายสิบไร่ นอกจากนี้ชาวบ้านยังกังวลว่าน้ำที่ไหลออกบ่อเกรอะหลากท่วมพื้นที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคและคุณภาพของดินที่ใช้ในการเพาะปลูกทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เนื่องจากน้ำเสียไหลออกจากบ่อเกรอะบ่อยครั้งและซึมลงดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังผู้บริหารฟาร์มหมูแห่งดังกล่าวทราบว่าสาเหตุเกิดจากฝนตกในพื้นที่ติดต่อกันหลายวันจนทำให้ดินอิ่มตัว คันดินบ่อเกรอะที่อยู่ติดลำห้วยทรุดตัวลงมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้นำเครื่องจักรมาตักดินปิดถมรอยรั่วคันดินบ่อเกรอะจนสามารถหยุดน้ำเสียไม่ให้ไหลออกจากบ่อเกรอะได้เรียบร้อยแล้ว