xs
xsm
sm
md
lg

เจอพิษโควิด! หันมาเลี้ยงนกกระทาขายไข่-ขายเนื้อรับทรัพย์เป็นกอบเป็นกำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - บางครั้งการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์อันเลวร้ายก็กลายเป็นเรื่องดี สามารถสร้างอาชีพใหม่ๆ ที่ดีกว่าได้ เหมือนกรณีของเกษตรกรชาวอำเภอวารินชำราบที่เจอกับภาวะโรคโควิดระบาด หันมาเลี้ยงนกกระทาขายไข่ จนกลายเป็นอาชีพทำเงินและมีอนาคตในปัจจุบัน


ราว 3-4 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกเจอวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียอาชีพที่เคยใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เช่นเดียวกับคุณประภัสสร จันสาขะ หรือพี่แปลง เจ้าของ อ.เพิ่มพูนทรัพย์ฟาร์ม ซึ่งแต่เดิมเป็นแม่ค้าขายบาร์บีคิว หม่าล่า ปลาหมึกย่างตามตลาดนัด ต้องหยุดทำมาหากินชั่วคราว เพราะถูกคำสั่งทางการห้ามรวมตัวประกอบอาชีพตามตลาดนัด แต่ครอบครัวยังมีค่าใช้จ่าย เลยลองค้นหาอาชีพที่พอทำได้ ก็เจอกับอาชีพเลี้ยงนกกระทาขายไข่ จึงนำมาทดลองเลี้ยงเพื่อหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัว 4 ชีวิต

พี่แปลงเริ่มทดลองซื้อแม่พันธุ์นกกระทามาเลี้ยงราว 200 ตัว สามารถเก็บไข่มาต้มเร่ขายตามหมู่บ้านได้วันละ 200-300 บาท ถือว่าพอเป็นทุนให้มีเงินใช้จ่ายไปในแต่ละวัน ก็เลยเพิ่มการเลี้ยงขึ้นเรื่อยๆ หวังให้มีรายได้ต่อวันเพิ่มมากขึ้น

จนวันเวลาผ่านไป สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดเริ่มดีขึ้น จึงยึดอาชีพเลี้ยงนกกระทาขายไข่สร้างรายได้อย่างจริงจัง โดยขยายโรงเลี้ยง จากเดิม 500 ตัว เป็นหลายพันตัว เมื่อเลี้ยงปริมาณมากขึ้น ก็มีปัญหาเรื่องของตลาด ปริมาณไข่นกกระทามีมากกว่าความต้องการของตลาดตามหมู่บ้าน จึงต้องหาตลาดใหม่ๆ ในที่สุดตัดสินใจปรับเป็นขายส่งแทนการเร่ขายเหมือนช่วงแรก

หลังจากนั้นก็ส่งขายในตลาดค้าส่งตลาดเจริญศรี อ.วารินชำราบ แต่ช่วงแรกสถานการณ์แพร่เชื้อโควิด-19 ยังไม่จางหายดี ทำให้ยอดขายไม่มากนัก ขายได้ประมาณ 2 วันต่อ 2,000 ฟอง ฟองละ 90 สตางค์ ก็พอมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 400-500 บาท/ครั้ง


จนสถานการณ์โรคโควิดคลี่คลายลง และตลาดเปิดค้าขายได้อย่างเต็มที่ มีความต้องการไข่มากขึ้น วันละไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ฟอง ก็เลยขยายการเลี้ยงเป็น 7,000 ตัว มีรายได้จากการเก็บไข่ขาย หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ววันละ 1,300-1,500 บาท นอกจากขายไข่แล้ว มูลขี้นกกระทา ก็ยังเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดี ก็เก็บมูลขี้นกส่งขายให้ชาวบ้านที่มาซื้อไปใส่ต้นข้าวกระสอบละ 100 บาท สำหรับนกที่ปลดระวางก็สามารถขายเป็นนกเนื้อ เอาไปทอดขาย ได้อีกกิโลกรัมละ 60 บาท

พูดได้ว่า เลี้ยงนกกระทา ขายตั้งแต่เป็นไข่ของนกวัยหนุ่มสาว จนถึงเป็นนกแก่อายุประมาณ 1 ปี ก็ปลดระวางขายเป็นเนื้อ สามารถเลี้ยงดูครอบครัว จนลูกๆ เรียนจบการศึกษาไปแล้ว 1 คน


สำหรับวิธีการเลี้ยงนกกระทาก็ไม่ยาก เพราะนกไม่ค่อยป่วย แต่เป็นนกที่กินจุ คือ กินได้ทั้งวัน จึงต้องให้อาหารอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น ช่วงเย็นต้องให้หัวอาหารเผื่อไว้ในรางอาหาร เพราะถ้านกกินไม่อิ่มก็จะไม่ไข่ พร้อมเปิดพัดลมระบายอากาศตลอดเวลา เพราะถ้าอากาศร้อน ทำให้นกหงุดหงิดก็จะไม่ไข่เช่นเดียวกัน ช่วงกลางคืนก็ให้เปิดไฟไว้ให้ด้วย นกจะมีสุขภาพดี หากต้องการเลี้ยงหรือหาลู่ทางสร้างอาชีพขอคำปรึกษาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1644-7941


กำลังโหลดความคิดเห็น