xs
xsm
sm
md
lg

แฉโรงบำบัดขยะติดเชื้อ รพ.ขอนแก่นใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ ซื้อเครื่องจักรจากขาประจำทั้ง รพ.ชุมแพ-รพ.จันทบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพ
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เงียบเหมือนเป่าสาก...กรณีกลิ่นเหม็นโรงบำบัดขยะติดเชื้อ รพ.ขอนแก่นยังไม่มีหน่วยงานไหนกล้าชี้ขาดทางออกปัญหา วงในเผยไม่จำเป็นต้องลงทุนเองแต่แรก จ้างเหมาแบบเดิมเหมาะสมที่สุด ซ้ำทำเองมีข้อพิรุธเพียบ ทั้งใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ซื้อเครื่องจักรจากบริษัทขาประจำที่เคยซื้อตอนเป็น ผอ.รพ.ชุมแพ-รพ.จันทบุรี ซึ่งมีปัญหาเรื่องกลิ่น-ควันรบกวนเหมือนกัน


กรณีปัญหาโรงกำจัดขยะติดเชื้อภายในโรงพยาบาลขอนแก่นส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งรบกวนคนไข้, ผู้ป่วย, บุคลากรทางการแพทย์และผู้พักอาศัยในแฟลตภายในพื้นที่ศูนย์อนามัยที่ 7 ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงกำจัดขยะล่วงเลยจนถึง ณ วันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ผู้พักอาศัยในแฟลตดังกล่าวจะรวมตัวกันยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานเข้ามาเคลียร์ปัญหาดังกล่าวให้ ทั้งเทศบาลนครขอนแก่น, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ฯลฯ ก็พากันร้องทุกข์ไปแล้วก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ผู้บริหารโรงพยาบาลขอนแก่นเองก็ไม่ได้สนใจในผลกระทบที่เกิดขึ้น ยังคงสั่งเดินเครื่องกำจัดขยะตามปกติ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งว่ากรณีปัญหาโรงกำจัดขยะติดเชื้อโรงพยาบาลขอนแก่นดังกล่าว ทางกรมอนามัยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบติดตามปัญหาร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครขอนแก่นก่อนในเร็วๆ นี้ ซึ่งตามขั้นตอนการจัดการปัญหา เทศบาลนครขอนแก่นควรจะสั่งให้โรงพยาบาลขอนแก่นปิดเดินเครื่องกำจัดขยะไปก่อนเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจนกว่าจะหาทางออกปัญหาระยะยาว ระหว่างนี้ก็ให้โรงพยาบาลขอนแก่นกลับไปจ้างเหมากำจัดขยะแบบเดิม สามารถลดกลิ่นควัน ลดความเสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่า

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า แต่เดิมโรงพยาบาลขอนแก่นไม่เคยมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะ เพราะใช้วิธีจ้างบริษัทเอกชนรับเหมาเบ็ดเสร็จ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีหน้าที่เพียงรวบรวมขยะใส่ถุงเรียบร้อยมาวางให้ทางเอกชนมาเก็บ มาตรการนี้ได้มีการประชุมระหว่างผู้บริหารท่านก่อน ทางหน่วยควบคุมโรคติดเชื้อ (IC) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และ โดยมาตรฐาน HA แล้วว่าวิธีให้เอกชนรับเหมาเบ็ดเสร็จนี้ดีที่สุดสำหรับโรงพยาบาลขอนแก่น เนื่องจากตั้งอยู่กลางชุมชน และอาคารคนไข้ไม่มีสถานที่พักหรือจะบำบัดขยะเองได้ และใช้เจ้าหน้าที่คนงานที่ดูแลเรื่องขยะน้อย และใช้งบประมาณเหมาะสม


แต่หลังจาก นพ.เกรียงศักดิ์เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ไม่นานก็ให้คนของตัวเองชงเรื่องว่าการกำจัดขยะแบบเดิมมีปัญหา และหน่วยงานที่ชงเรื่องนี้เข้ากรรมการบริหารคือ ห้องแล็บ ไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอนามัยสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด

ขณะที่ตัว ผอ.โรงพยาบาลเองก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าหากโรงพยาบาลซื้อเครื่องบำบัดขยะและกำจัดขยะเองจะประหยัดงบประมาณมากกว่า โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือหน่วยโรคติดเชื้อไม่ได้รู้เห็นด้วย และมีข้อสั่งการออกจากกรรมการบริหารออกมาเลยว่าให้จัดหาซื้อเครื่องบำบัดขยะ โดยใช้เงินบริจาค ซึ่งเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

หลังจากนั้นคนของผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ได้ทำการออกสเปกเครื่องบำบัดขยะเอง โดยผู้ออกสเปกไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องบำบัดขยะเลยแม้แต่นิด และในที่สุดก็ตั้งเรื่องจัดซื้อเครื่องบำบัดขยะของบริษัทนำวิวัฒน์ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยอ้างว่าได้มีการคัดเลือกจากหลายบริษัทแล้ว

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า สมัยที่ นพ.เกรียงศักดิ์นั่งเป็น ผอ.โรงพยาบาลชุมแพ, โรงพยาบาลจันทบุรี ก็ซื้อเครื่องบำบัดขยะของบริษัทนำวิวัฒน์จากเงินบริจาคของโรงพยาบาลทั้งหมดเช่นกัน มีการอ้างว่าใช้เงินบริจาคแบบไม่มีวัตถุประสงค์มาใช้ซื้อโดยผ่านมติคณะกรรมการเงินบริจาค แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว เงินบริจาคในบัญชีเงินบริจาคแบบไม่มีวัตถุประสงค์ไม่พอ ได้ไปเอาเงินบริจาคแบบมีวัตถุประสงค์ที่ระบุให้ซื้อเฉพาะเครื่องมือแพทย์ เอามารวมก่อนแล้วโดยไม่แจ้งคณะกรรมการเงินบริจาคก่อน เป็นการใช้เงินบริจาคผิดระเบียบคือไม่ตรงวัตถุประสงค์

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวต่อว่า ภายหลังได้เดินเครื่องบำบัดขยะเอง เกิดปัญหากลิ่นเหม็นเเละควันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตึกผู้ป่วย ได้แก่ ตึกเด็ก และตึกอายุรกรรม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนามัยที่ 7 ที่อาศัยใกล้เคียง โดยกลุ่มผู้พักอาศัยที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นได้ทำหนังสือร้องเรียนไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์อนามัยที่ 7, ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และเทศบาลนครขอนแก่น ส่วนข้อกล่าวอ้างที่ว่าหากลงทุนทำการบำบัดขยะเองจะใช้งบประมาณถูกกว่าจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ ก็ไม่เป็นความจริง

เพราะแต่ละเดือนต้องมีภาระเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าคนงาน อีกทั้งซากขยะที่บำบัดขยะออกมา ต้องจ้างเทศบาลมาเก็บอีกต่อหนึ่ง, เครื่องบำบัดไม่สามารถบำบัดขยะที่เป็นเศษชิ้นเนื้อและของมีคมได้ ขณะนี้ก็ต้องจ้างเอกชนมารับเหมากำจัดให้ เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนโดยใช่เหตุ


แหล่งข่าวรายเดิมบอกอีกว่า ที่โรงพยาบาลจันทบุรีสมัย นพ.เกรียงศักดิ์เป็นผู้อำนวยการ ก็ทำโรงบำบัดขยะติดเชื้อลักษณะเดียวกัน ซื้อเครื่องจักรบริษัทเดียวกัน และก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน จนต้องปิดโรงบำบัดขยะไป สูญเงินบริจาค โดยเปล่าประโยชน์มากกว่า 14 ล้านบาท

ที่สำคัญ เครื่องบำบัดขยะรุ่นเดียวกัน ความจุและสเปกเหมือนกันกับเครื่องบำบัดขยะของโรงพยาบาลนครพนม ซึ่งใช้งบประมาณซื้อเพียง 10 ล้านบาทเศษ แต่โรงพยาบาลขอนแก่นกลับซื้อแพงกว่า คือ 19 ล้านกว่าบาท

“ตอนนี้มีการร้องเรียนเรื่องซื้อผิดระเบียบเงินบริจาคและส่อทุจริต ซื้อบริษัทเดียวกันทุกโรงพยาบาทที่ไปเป็นผู้อำนวยการ ซึ่งทุกแห่งมีปัญหากลิ่นและควัน และที่จันทบุรีต้องปิดใช้งาน เมื่อมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่นก็ยังทำและซื้อบริษัทเดิม ทราบว่าทางกระทรวงได้ตั้ง กรรมการสอบข้อเท็จจริงลงมาสอบสวนและอยู่ในระหว่างการสรุปสำนวนสอบ” แหล่งข่าวระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น