บุรีรัมย์ - หนุ่มชาวแคนดง จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมถูก ตร.แจ้งความเอาผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่น หลังไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยในงานให้กลับบ้านแต่มีชายมารู้ทีหลังมาว่าเป็น ตร.นอกเครื่องแบบเข้าล็อกคอตบหน้าจึงปัดป้องไม่มีเจตนาทำร้าย ด้าน ตร.ยันถูกทำร้ายจริง
วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวบ้านการะโก ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าขณะเข้าไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยกันในงานผ้าป่าศิษย์เก่าและเลี้ยงรุ่น ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2566 ที่ผ่าน ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. แต่ถูกผู้ชายคนหนึ่งซึ่งแต่งตัวเหมือนชาวบ้านทั่วไป แต่เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนสังกัด สภ.แคนดง หลังจากเกิดเรื่อง เพราะในวันงานไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่ได้แขวนบัตรที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่
กลับถูกตำรวจนายดังกล่าวแจ้งความเอาผิดฐาน "ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่" พร้อมเรียกค่าเสียหายอีก 20,000 บาท ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะตนเองไม่ได้มีเรื่องชกต่อยในงาน แค่ไปบอกเพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยกับอีกคนช่วงที่เต้นสนุกสนานข้างรถแห่ที่จ้างมาแสดงภายในงาน ให้กลับบ้านเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาบานปลาย แต่จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาเหมือนกับศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงาน เข้ามาล็อกคอแล้วตบหน้าตนเอง ซึ่งตนไม่รู้ว่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่อย่างไร
แต่ด้วยความที่ชายคนดังกล่าวไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และไม่ได้แขวนบัตรที่แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ คิดว่าเป็นอีกฝ่ายที่มีเรื่องกับเพื่อนจึงใช้มือปัดป้องและสะบัดไปมา ก่อนที่จะมีชาวบ้านมาดึงตนกับชายคนดังกล่าวออก โดยช่วงนั้นค่อนข้างชุลมุน พอมีคนแยกออกจากกัน ถึงมีคนมาบอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเอยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตามที่ถูกแจ้งความกล่าวหา เป็นเพียงการใช้มือปัดป้องเพราะถูกล็อกคอเท่านั้น ที่สำคัญไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยซ้ำ แต่กลับถูกแจ้งข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่และเรียกค่าเสียหายอีก 2 หมื่น จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย
ด้านนางบี (นามสมมติ) แม่ของนายเอ บอกว่า วันเกิดเหตุมีคนอื่นที่ชกต่อยกันลูกชายตนไม่ได้ไปชกต่อยกับเขาด้วย เพียงแค่คนที่มีเรื่องเขาเป็นเพื่อนกับลูกชายจึงไปบอกให้เขากลับบ้าน แต่จังหวะที่เดินไปบอกก็มีผู้ชายมาล็อกคอตบหน้า โดยที่ลูกชายไม่รู้ว่าเขาเป็น ตร.เพราะเขาไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่แขวนบัตร ตามสัญชาตญาณก็ต้องปัดป้อง พอตนรู้ว่าเป็นลูกชายตัวเองก็รีบไปดึงแขนออกมา ตอนนั้นชุลมุนไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว แต่ทำไมเขาถึงมาเจาะจงแจ้งความเอาผิดลูกชายคนเดียว ข้อหาหนักมาก แล้วเรียกค่าเสียหายตั้ง 2 หมื่นบาท จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย จึงอยากให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.แคนดง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจที่แจ้งความเอาผิดนายเอออกไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก จึงได้โทรศัพท์สอบถาม ซึ่งตำรวจนายดังกล่าวให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในงานผ้าป่าศิษย์เก่าที่ ร.ร.ดังกล่าว โดยไปด้วยกัน 3 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่มีคนที่อยู่ในงานมีเรื่องชกต่อยกัน แล้ววิ่งไปขึ้นรถเหมือนจะหลบหนี ตนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในงานจึงวิ่งตามไปเห็นคนที่มีเรื่องนั่งอยู่บนรถ จึงจะไปถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่จังหวะที่กำลังจะถ่ายรูปนายเอมากระชากกระเป๋าที่ตนเองสะพายอยู่ แล้วทำร้ายร่างกายด้วย ก่อนที่จะมีครูซึ่งเห็นเหตุการณ์มาดึงตัวนายเอออกไป
ยืนยันว่าที่ไปแจ้งความเพราะถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่จริง ซึ่งมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันแต่อีกฝ่ายกลับข่มขู่ว่าจะเอาเรื่องไปร้อง ป.ป.ช. คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ