นครพนม - แม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายวัย 19 ปีถูกปาระเบิดปิงปองเจ็บสาหัส สูญเสียดวงตาซ้าย แต่คดีไม่คืบ ทั้งผู้ก่อเหตุไม่เคยมาเยียวยา ด้านผู้ก่อเหตุยันไม่มีเจตนาทำร้าย ทั้งตัวเองก็นิ้วมือขาดถึง 3 นิ้ว ย้ำเป็นเหตุชุลมุนยกพวกตีกันเจ็บทั้งสองฝ่าย ด้านตำรวจยันคดีไม่ล้ม แจ้งข้อหาแล้ว 8 รายฐานพยายามฆ่า เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ 15 กันยายนนี้
ความคืบหน้ากรณี นางนิตยา ตู้แก้ว อายุ 44 ปี ชาวบ้านคำเตย ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ กรณีลูกชาย นายเนติพงษ์ มัยวงค์ อายุ 19 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น ยกพวกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ถูกระเบิดปิงปองบริเวณศีรษะสูญเสียดวงตาข้างซ้าย ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนมนานเกือบ 1 เดือน เหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา คดียังไม่คืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา
ล่าสุดจากการตรวจสอบคดีกับทางตำรวจ สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พบว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่กระบวนการสอบสวนเอาผิดต้องใช้เวลานาน เนื่องจากมีผู้ต้องหาอายุ 23 ปี 1 คน รวมถึงเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี อีก 7 คน ต้องมีกระบวนการสอบสวนโดยละเอียด โดยแจ้งข้อหาพยายามฆ่า อยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งอัยการในวันที่ 15 กันยายน 2566 ส่วนสาเหตุเป็นการทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน
ด้านนางนิตยา ตู้แก้ว แม่ของนายเนติพงษ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีงานหมอลำในหมู่บ้าน ลูกชายไปดื่มเหล้ากับเพื่อน และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาจากงานบุญ ถึงท้ายหมู่บ้าน ถูกวัยรุ่นอีกแก๊งยกพวกทำร้ายไม่ทราบสาเหตุ จนได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดปิงปองถูกศีรษะ บาดเจ็บสาหัส จนเสียดวงตาซ้าย อยากให้เร่งรัดคดี และหาทางช่วยเหลือชดเชยเยียวยา เชื่อว่าลูกชายไม่ใช่คนหาเรื่องใคร แต่อาจเข้าใจผิด เพราะเพื่อนมีปัญหากับคู่อริ ส่วนคนก่อเหตุทราบภายหลังได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ถูกแรงระเบิดนิ้วขาด แต่ทางญาติไม่เคยมาเจรจาไกล่เกลี่ย
ด้านนายเอ๋ อายุ 23 ปี ชาวบ้านดอนดู่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหาย ยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุ เป็นการยกพวกตีกันระหว่างกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านออกมาจากงานหมอลำ โดยไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน กระทั่งช่วงชุลมุนมีมือดีปาระเบิดปิงปองเข้ามา ตนตั้งใจจะปัดให้พ้นตัว แต่ระเบิดใส่มือ และโดนศีรษะคนเจ็บฝ่ายตรงข้ามด้วย ยืนยันไม่มีเจตนาปาระเบิดใส่ตามที่คนเจ็บเข้าใจ เพราะตนเจ็บด้วยนิ้วมือขวาขาดทั้งสามนิ้ว ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และให้การตำรวจไปตามข้อเท็จจริงแล้ว